Blog

อันว่าเรื่องราวสยองขวัญเกี่ยวกับหอพักนั้นมักจะมีเรื่องเล่าให้เราฟังไม่รู้จบไม่ว่าจะในประเทศไทยหรือต่างประเทศก็ตาม โดยเรื่องราวของเราในวันนี้จะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับหญิงสาวคนหนึ่งที่เราจะขอสมมุติชื่อเธอว่าคุณสวย เธอเป็นนักศึกษาที่พึ่งเรียนจบมาใหม่ ๆ บังเอิญได้งานในบริษัทหนึ่งของกรุงเทพมหานครแต่ปัญหาก็คือระยะทางการเดินทางระหว่างที่บ้านของคนสวยและที่ตั้งบริษัทมันไกลเป็นอย่างมาก สุดท้ายเธอก็ตัดสินใจออกตะเวนหาหอพักบริเวณใกล้บริษัท แต่ด้วยความที่เป็นนักศึกษาจบใหม่งบก็เลยน้อย ค้นหาอยู่นานก็บังเอิญไปเจอป้ายประกาศให้เช่าห้องพักของหอพักแห่งหนึ่ง มันเป็นหอพักเล็ก ๆ ที่ดูจะเก่าแต่ก็ถูกรักษาสภาพไว้อย่างดี คุณสวยจึงตัดสินใจเข้าพักอาศัยในหอพักแห่งนี้เนื่องจากราคาไม่แพงและก็ยังพอเห็นคนอยู่บ้างโดยเฉพาะเธอบังเอิญได้เจอกับคุณแก้ว ซึ่งมีอายุมากกว่าคุณสวยโดยคุณแก้วคนแนะนำว่าเธอพักอาศัยอยู่หอพักแห่งนี้มาพักใหญ่ คุณสวยเดินกลับมาในหอพักทุกเย็น และมักจะนัดกับคุณแก้วที่หน้าปากซอยหอพักเพื่อจะเดินกลับเข้าหอพักพร้อมกันทุกวันจะได้อุ่นใจและปลอดภัยเนื่องจากเป็นหญิงสาวทั้งคู่ เวลาก็หมุนผ่านไปเรื่อยเป็นปี คุณสวยก็เริ่มสังเกตเห็นว่าคนในหอพักเริ่มจะหายหน้าหายตาไปและค่อยทยอยย้ายออกกันไปเรื่อย ๆ แทบจะเรียกว่าย้ายออกไปหมดหอพักกันเลยทีเดียว แต่โชคยังดีที่ยังคงมีพี่แก้วเพื่อนร่วมหอพักยังพักอาศัยอยู่ในหอพักแห่งนี้เช่นเดียวกัน ซึ่งพี่แก้วบอกว่าถึงหอพักนี้จะเก่าแล้วทำให้คนอื่นตัดสินใจย้ายไปอยู่หอพักหรือคอนโดมิเนียมที่ใหม่กว่าและทันสมัยมากกว่าก็ตามแต่พี่แก้วก็ชินเสร็จแล้วและไม่อยากจะย้ายไปที่อื่น ส่วนคุณสวยเองก็อยากที่จะประหยัดค่าใช้จ่ายของตนเองจึงตัดสินใจจะอยู่หอพักแห่งนี้ต่อไปอย่างน้อยก็มีพี่แก้วอยู่ด้วยกันอีกคนหนึ่งละนะ และก็คาดหวังว่าคงจะมีผู้เช่าคนใหม่เข้ามาเพิ่มเติมในอนาคตข้างหน้าไม่นาน อย่างไรก็ตาม ในขณะที่คุณสวยกำลังทำงานอยู่ในช่วงเวลากลางวันก็มีคนติดต่อเข้ามาที่มือถือของคุณสวย แนะนำว่าตนเองเป็นเจ้าของหอพักซึ่งคุณป้าที่เธอเห็นดูแลหอพักอยู่เป็นเพียงผู้ดูแลเท่านั้นซึ่งคุณสวยก็ทราบอยู่แล้ว หอพักแจ้งว่าเธอกำลังจะขายหอพักแห่งนี้พร้อมที่ดินให้กับนายทุนซึ่งมากว้านซื้อพื้นที่ดินไปทำคอนโดมิเนียม จึงจำเป็นจะต้องปิดการให้บริการขอหอพักแห่งนี้และขอให้คุณสวยย้ายออกจากหอพักแห่งนี้ภายในเวลา 3 เดือนข้างหน้า…

สำหรับคนที่ชื่นชอบเรื่องผีแน่นอนว่าส่วนใหญ่มักจะเป็นคนที่ค่อนข้างจะกลัวผี หรือเรื่องราวลึกลับน่าหวาดเสียวเสียเป็นส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่ากลัวที่สุดอาจจะไม่ใช่ผีแต่เป็นมนุษย์เราเองนี่ก็เป็นได้ โดยเรื่องราวของเราในวันนี้เกิดขึ้นกับชายหนุ่มวัยทำงานชาวญี่ปุ่นคนหนึ่ง ย้อนกลับไปในช่วงวัยวัยมัธยม เขามีกลุ่มเพื่อนสนิทด้วยกัน 3 คน เป็นผู้ชาย 2 คน ซึ่งเราขอสมมุติชื่อว่าคุณเอและคุณบี กับเด็กสาวอีก 1 คน ซึ่งเราให้ชื่อว่าคุณซี โดยเพื่อนรักทั้ง 3 เติบโตมาด้วยกันตั้งแต่วัยเด็ก พอเข้าสู่วัยมัธยมก็ปรากฏว่าคุณเอนั้นมีความรู้สึกที่ตรงกันกับคุณซี ทำให้ทั้งสองตกลงเป็นแฟนกัน โดยทั้งสองได้ร่วมอธิษฐานต่อศาลเจ้าแห่งหนึ่งว่าจะมั่นคงในรักจนแต่งงานสร้างครอบครัวกันต่อไปในอนาคต ซึ่งในยุคที่เพื่อนซี้ทั้ง 3 เรียนอยู่มัธยมนั้นเป็นยุคที่โทรศัพท์มือถือเริ่มเข้ามามีบทบาทในสังคมแล้ว แถมยังเป็นรุ่นที่สามารถพิมพ์รับส่งข้อความหากันได้แล้วด้วย ทำให้คุณเอและคุณบีก็มักจะส่งข้อความตอบโต้กันตามประสาคนรัก ซึ่งก็อยู่ในสายตาของคุณบีเพื่อนชายในกลุ่มอีกคนเสมอ อย่างไรก็ตาม…

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบเรื่องราวลึกลับและตำนานลี้ลับต่าง ๆ ในประเทศไทย หนึ่งในตำนานที่น่าจะเรียกว่าบอกเล่ากันปากต่อปากมาบ่อยครั้งนั่นก็คือตำนานเกี่ยวกับ “จระเข้กินคน” โดยเฉพาะในประเทศไทยก็จะมีอยู่หลายตัวด้วยกัน ส่วนใหญ่จระเข้นั้นไม่ใช่สัตว์ดุร้ายที่จะเที่ยวออกอาละวาดไล่กินคนไปทั่ว แต่ก็มีบางกรณี เช่น อดอยากหาอาหารไม่ได้ หรือบังเอิญได้ไปลิ้มลองเนื้อมนุษย์แล้วติดใจ แต่ก็มีอีกหลายกรณีที่มีตำนานเล่าว่าจระเข้เหล่านั้นเกิดจากมนุษย์ผู้ทรงอาคมแปลงกายเป็นจระเข้นั่นเอง โดยตำนานเกี่ยวกับจระเข้อาคมนั้นมีอยู่หลายตำนานด้วยกัน บ้างก็เล่าว่ามีพระเกจิอาจารย์ดังรูปหนึ่งมีอาคมแปลงร่างตนเองเป็นจระเข้ โดยกำชับให้ลูกศิษย์ถือบาตรน้ำมนต์ที่ได้คาถาเตรียมเอาไว้หลังจากที่ตัวพระเกจิองค์นั้นได้ทำการแปลงกายเป็นจระเข้แล้วให้เอานำน้ำมนต์ในบาตรราดารดตัวท่าน ท่านถึงจะสามารถกลับคืนเป็นมนุษย์ได้ แต่แล้วลูกศิษย์ก็บังเอิญทำบาตรน้ำมนต์หล่นทำให้หลวงปู่รูปดังกล่าวไม่สามารถคืนเป็นมนุษย์ได้และต้องอยู่เป็นจระเข้จนสิ้นอายุขัย โดยจระเข้ตัวนั้นก็ถือว่าเป็นจระเข้ที่ไม่เคยดุร้ายและทำร้ายใครเลยตามข่าวที่เราท่านน่าจะเคยได้ยิน แต่อีกตำนานหนึ่งค่อนข้างจะหน้าหวาดกลัว โดยเล่าว่ามีลูกศิษย์วัดคนหนึ่งร่ำเรียนวิชาอาคมการแปลงเป็นจระเข้จากวัดหนึ่ง หลังจากโตเป็นหนุ่มก็เข้าทำงานเป็นลูกจ้างคนรับใช้ของบ้านเศรษฐีนายหนึ่ง แต่ก็ดันไปแอบรักกับลูกสาวเจ้าของบ้าน ซึ่งแน่นอนว่าทั้งสองถูกกีดกันความรักด้วยสถานะที่แตกต่างกัน ทำให้ทั้งสองตัดสินใจหนีตามกันไป หากแต่ก็ถูกคนของท่านเศรษฐีไล่ตามจนไปจนมุมท่าน้ำแห่งหนึ่งมีแม่น้ำกั้นกลาง อดีตลูกศิษย์วัดนายนี้ได้ทำการใช้มนต์คาถาแปลงร่างเป็นจระเข้ใหญ่พร้อมกำชับให้เด็กสาวคนรักถือขันน้ำมนต์ที่ปลุกเสกเอาไว้เพื่อใช้อาบรักษาตนเองจะได้กลับมาเป็นมนุษย์  โดยตามแผนการหลังจากเขาแปลงร่างเป็นจระเข้แล้วจะให้คนรักยืนบนตัวก่อนที่เขาในร่างจะเข้จะพาหญิงสาวข้ามน้ำไปยังอีกฝั่ง แต่พอเอาเข้าจริงหญิงสาวกลับตกใจกลัวทำขันหล่นลงพื้นจนหมด จากนั้นก็วิ่งหนีไปทำให้ชายหนุ่มกลายเป็นจระเข้ที่ไม่สามารถกลับเป็นคนได้ ด้วยความแค้นหญิงคนรัก…

สำหรับเรื่องเล่าเกี่ยวกับผีและวิญญาณ มักจะเกิดขึ้นได้กับหลายสถานที่ เรียกได้ว่าแทบทุกที่มีการเจอเรื่องผีกันหมดแล้ว และสถานที่หนึ่งที่เรียกได้ว่าเจอเรื่องผีหรือมีเรื่องเล่ากันบ่อยครั้งนั่นก็คือในโรงพยาบาล ซึ่งเรื่องราวของวันนี้เกิดขึ้นกับผู้หญิงคนหนึ่งเราขอสมมุติว่าชื่อพี่สาว คุณพี่สาวมีความจำเป็นต้องย้ายไปทำงานในจังหวัดที่ไม่คุ้นเคย เรียกได้ว่ายังใหม่มากับจังหวัดนี้ แต่มันเป็นจังหวัดใหญ่ที่มีทั้งโรงแรม หรือสถานพยาบาลมากมายหลายแห่งให้เลือกใช้บริการ ซึ่งในคืนหนึ่งคุณสาวรู้สึกว่าในวันนี้มีอาการไม่สบายด้วยโรคประจำตัว หากแต่ในช่วงกลางวันก็ต้องทำงาน จึงตัดสินใจว่าจะไปหาหมอเพื่อตรวจร่างกายกับบริการคลินิกพิเศษนอกเวลาในช่วงค่ำแทน โรงพยาบาลที่เธอเลือกจะไปใช้บริการนั้นเป็นโรงพยาบาลที่มาดูจากแผนที่ในโทรศัพท์มือถือแล้วจะเป็นโรงพยาบาลกลางเมือง ดูแล้วก็ไม่น่ากลัวแต่อย่างใด หลังจากขับรถวนหาที่จอดเธอก็ค่อย ๆ เดินไปพบกับอาคารหลังหนึ่งซึ่งมีผู้คนเดินเข้าออกมากมายหลังจากเดินไปถามยามที่ให้บริการอยู่ด้านหน้าอาคารหลังนั้นก็ได้รับการนำทางให้เข้าไปขึ้นทะเบียนผู้ป่วยรายใหม่ด้านในอาคาร ซึ่งตามคำบอกเล่า พี่สาวบอกมาว่าโรงพยาบาลดังกล่าวก็ดูเป็นโรงพยาบาลธรรมดาเช่นที่เราพบเห็น นั่นก็คือมีทั้งเหล่าแพทย์และพยาบาลเดินผ่านไปมารวมทั้งผู้ป่วยที่มานั่งรอการตรวจรักษาอยู่ แม้ว่าจะดูน้อยกว่าในช่วงกลางวันเป็นอย่างมากแต่คุณสาวก็คิดว่าเพราะช่วงนี้เป็นช่วงคลินิกพิเศษยามเย็นคนก็เลยไม่เยอะเท่าช่วงกลางวันนั่นเอง ภายหลังจากได้ทราบเบอร์ห้องคุณหมอที่จะต้องทำการตรวจร่างกายแล้วคุณสาวก็เดินขึ้นมานั่งรอที่เก้าอี้หน้าห้องตรวจเพื่อรอให้พยาบาลเรียกเมื่อถึงคิวที่ต้องเข้าไปให้คุณหมอได้ตรวจร่างกายกัน แต่ด้วยความที่เหนื่อยล้าจากการทำงานคุณสาวเผลอหลับไป สักครู่ใหญ่ก็มีโทรศัพท์โทรเข้ามาทำให้คุณสาวสะดุ้งตื่นพร้อมกับล้วงเอามือถือขึ้นมากดรับสายด้วยอาการที่งัวเงียตาปิดอยู่ สายดังกล่าวเป็นสายของเพื่อนที่ทำงานสอบถามอาการของเธอและถามว่าได้ตรวจร่างกายหรือยัง ซึ่งคุณสาวก็บอกว่ายังไม่ตรวจร่างกาย หากแต่พอคุณสาวเปิดตาขึ้นมามองบริเวณตัวเองนั่งอยู่ก็ต้องตกใจจนแทบช็อคเมื่อปรากฏว่าไฟกลับมืดมิดปิดสนิท ผู้คนมากมายที่เห็นก่อนหน้านี้กลับหายไปจนหมด เท่านั้นยังไม่พออาคารโรงพยาบาลที่เห็นเป็นปกติก่อนหน้านี้กลับกลายเป็นอาคารร้างฝุ่นขึ้นเต็มพร้อมกับยักใย่ขึ้นตามเครื่องมือต่างๆ คุณสาวตกใจวิ่งหนีออกมาอาคารร้องโวยวายจนล้มลงที่หน้าตึกที่ปิดสนิทดังกล่าว…