ช่วยด้วยค่ะคุณตำรวจ

เรื่องราวของเราในวันนี้จะเอ่ยถึงตำรวจคนหนึ่งซึ่งเป็นตำรวจน้องใหม่ไฟแรงเพิ่งจะมาบรรจุและเข้ารับหน้าที่ประจำการในป้อมท้องถิ่นแห่งหนึ่งในเมืองเล็ก ๆ ในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งรุ่นพี่ตำรวจที่เข้าเวรในกะกลางวันก็สั่งเอาไว้ว่ากลางคืนที่นี่ถ้าเจอใครหรืออะไรมาเรียกไม่ต้องไปสนใจอยู่ประจำการและบันทึกเรื่องเอาไว้ก็พอ ซึ่งคำพูดดังกล่าวสร้างความแปลกใจให้กับน้องใหม่คนนี้เป็นอย่างมาก เพราะด้วยความที่เป็นตำรวจแต่มีคนมาแจ้งเหตุด่วนเหตุร้ายเขาจะทำเป็นนิ่งเฉยไม่สนใจอะไรได้อย่างไร พอถึงช่วงยามดึก คุณพลตำรวจเจที่นั่งหลับตื่น ๆ อยู่นั้นก็ได้ยินเสียงก็เรียกที่กระจกหน้าป้อมยาม โดยปรากฏเป็นหญิงสาว 2 คน หน้าซีดร้องโวยวายขอให้ช่วยเหลือ ด้วยความตกใจคุณเจจึงได้เปิดประตูให้สาวทั้งสองเข้ามาด้านในเพื่อเล่าเรื่องที่พวกเธอทั้งสองคนได้พบเจอมา โดยพวกเขาได้เล่าว่าเป็นกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มใหญ่ที่มาล่าท้าผีในตึกร้างแห่งหนึ่งใกล้บริเวณดังกล่าว ซึ่งกลุ่มเพื่อนผู้ชายอีก 3 คนนั้น กลับหายตัวไปในตึกหลังนั้น พวกเธออยากให้คุณตำรวจไปช่วยเหลือพาตัวเพื่อนผู้ชายอีก 3 คน ที่เข้าไปล่าท้าผีในตึกแล้วหายไปพาตัวกลับออกมา พลตำรวจเจเมื่อได้รับทราบเรื่องดังกล่าวแม้จะมีคำเตือนการรุ่นพี่อยู่แต่ก็คิดว่านี่มันเป็นเรื่องจำเป็นเรื่องด่วนเพราะไม่แน่ว่าเด็กทั้ง 3 ที่เข้าไปล่าท้าผีอาจเกิดอุบัติเหตุอะไรบางอย่างจนได้รับอันตรายในตึกร้างซึ่งโครงสร้างไม่แข็งแรงก็เป็นได้ จึงได้แจ้งไปยังสถานีตำรวจใหญ่และเขตพื้นที่นั้นก่อนจะรีบขับรถโดยสารทั้ง 2 ไปยังจุดเกิดเหตุโดยไม่รอคอยกำลังสนับสนุนตามที่ได้รับคำสั่งมาคุณตำรวจเจจอดรถอยู่ด้านหน้าตึกแล้วบอกให้สาวทั้งสองรออยู่ด้านนอก…

0 Comments

ใครว่ามันไม่มีจริง

ผู้อ่านหลายท่านคงจะเคยได้ยินได้ฟังเกี่ยวกับเรื่องของ “คุณยายไฮสปีด” มาบ้างแล้ว โดยว่ากันว่ามันเป็นเรื่องที่แต่งขึ้นโดยดัดแปลงเอาเนื้อหาของการ์ตูนเรื่องหนึ่งมาสร้างเป็นเรื่องอื่นเพื่อหลอกให้นักซิ่งหวาดกลัวเท่านั้น หากแต่ถึงจะเป็นแบบนั้นก็มีหลายเหตุการณ์เรื่องเล่าที่เคยเจอสิ่งนั้นจริงๆ โดยเรื่องราวในครั้งนี้เป็นเรื่องราวของคุณทอง(นามสมมุติ)ซึ่งมีเพื่อนสนิทคนหนึ่งคือคุณแก้ว(นามสมมุติ) ในคืนหนึ่งที่มีเหตุจำเป็นจะต้องเดินทางโดยรถมอเตอร์ไซค์ผ่านถนนสายหนึ่ง ด้วยความที่ถนนเส้นดังกล่าวแม้จะเป็นถนนในซอยเส้นเล็ก ๆ หากแต่ก็สามารถลัดผ่านจากถนนหลักสายไปยังอีกสายหนึ่งได้อย่างรวดเร็ว และจะช่วยประหยัดเวลาให้กับการเดินทางของทั้งสองคนได้ แม้ว่าจะน่ากลัวสักหน่อยแต่ผู้หญิงทั้งสองคนก็ตัดสินใจขับรถเข้าไป โดยคุณทองเป็นผู้ขับขี่รถมอเตอร์ไซค์มีคุณแก้วเป็นคนซ้อนท้าย ซึ่งถนนหนทางในช่วงหลายปีก่อนหน้านี้ในซอยเส้นนี้นั้น แม้จะเริ่มมีบ้านเรือนผู้คนมากขึ้น แต่ถึงอย่างไรก็ยังถือว่าน้อยและแสงไฟมีให้เห็นน้อยเช่นเดียวกัน ทั้งสองคนทำใจดีสู้เสือพยายามพูดคุยโต้ตอบกันไปในขณะที่ขับรถมอเตอร์ไซค์ไปในเส้นทางดังกล่าวอย่างไม่เร็วไม่ช้าจนเกินไป ทันใดนั้นเองคุณทองก็ได้ยินเสียงเหมือนมีบางสิ่งกำลังสับฝีเท้าอย่างรวดเร็วและรุนแรงวิ่งไล่ตามรถมา คุณแก้วที่นั่งซ้อนท้ายอยู่ก็ตะโกนบอกคุณทองว่ารีบไปรีบไปให้เร็วที่สุดเลย ตอนนั้นคุณแก้วจะยังมองไม่เห็นว่าสิ่งใดไล่ตามมา แต่ก็คิดว่าอาจจะเป็นสุนัขจรจัดแถวนี้จะวิ่งมาไล่กัดทั้งสองคนที่ขับรถผ่านก็เป็นได้ จึงรีบบิดรถมอเตอร์ไซค์คู่กายเร่งความเร็วให้มากขึ้น แต่แล้วเสียงของตัวที่ไล่ตามมาเร็วมากขึ้นทุกทีและด้วยความที่รถมอเตอร์ไซค์ถูกบิดจนสุดกำลังเครื่องแล้วเป็นความเร็ว 100 กว่ากิโลเมตรต่อชั่วโมง จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีสุนัขไล่ตามมาได้ทัน จากนั้นสิ่งที่คุณทองมองเห็นในกระจกมองหลังมอเตอร์ไซค์ก็คือร่างหนึ่งที่มีลักษณะบิดเบี้ยวสีขาวคล้ายมนุษย์ ร่างกายเปลือยเปล่าดูไม่ออกว่าเป็นเพศใด หากแต่กลับวิ่ง 2…

0 Comments

ขับรถระวังทางด้วย

เรื่องราวของเราเริ่มต้นที่มีชายหนุ่มพี่น้อง 2 คน ที่ได้รับคำสั่งจากคุณแม่ที่ต้องการจะทำบุญตามวัดต่างๆในช่วงวันเข้าพรรษา นั้นคือการถวายเทียนให้กับวัดที่อยู่ห่างไกลหรืออยู่ในชนบท ซึ่งคุณแม่เชื่อว่าจะได้บุญมากกว่าการไปทำบุญกับวัดใหญ่ที่มีคนไปทำบุญกันเยอะแยะมากมายอยู่แล้ว ภารกิจการขับรถนำเทียนและของเครื่องใช้ต่าง ๆ ไปถวายให้กับวัดในห่างไกลจึงตกลงบนบ่าของคุณหนึ่งและคุณสอง ที่ต้องขับรถไปตะเวนถวายเทียนตามกำหนดการที่คุณแม่ได้ประสานกับทางวัดเอาไว้   หลังจากตระเวนทำบุญนำส่งข้าวของเครื่องใช้ตามวัดต่าง ๆ ที่กำหนดไปแล้ว ในที่สุดก็เป็นถึงวันสุดท้ายซึ่งอยู่ในแถบชนบทในถนนเส้นเล็ก ๆ เข้าไปส่วนลึกของหมู่บ้านห่างไกลผู้คนเข้าไปอีก ซึ่งเส้นทางเข้าวัดภายหลังจากวิ่งจากถนนใหญ่และเลี้ยวเข้าซอยมา ราวกับกลายมาเป็นอีกโลกหนึ่งเพราะกลายเป็นถนนเส้นลูกรัง รอบข้างไม่มีไฟส่องสว่าง หากแต่ในขณะจะขับรถเข้าไปนั้นกลับปรากฏมีคุณลุงคนหนึ่งยืนโบกมืออย่าริมถนน สอบถามว่ากำลังจะไปไหนซึ่งพอได้รับคำตอบว่า 2 หนุ่มกำลังจะเอาเทียนไปถวายที่วัด คุณลุงก็ได้แนะนำเส้นทางที่จะขับรถเดินเข้าไป พร้อมกับบอกเอาไว้ว่าเห็นสิ่งใดก็ไม่ต้องไปสนใจห้ามจอดและอย่าตื่นเต้นตกใจ พร้อมกับย้ำว่าขับรถให้ระมัดระวังล่ะ สองหนุ่มก็รับคำไม่คิดอะไรพลางคิดว่าอาจจะเป็นแค่คำแนะนำด้วยความห่วงใยเท่านั้น อย่างไรก็ตาม หลังจากขับรถมาพักใหญ่ในที่สุดพวกเขาก็มองเห็นอะไรบางอย่างขึ้น…

0 Comments

มิติวิญญาณ มีจริงไหมตายแล้วไปไหน ไปสวรรค์หรือลงนรก มีจริงหรือเปล่า

หลายๆคนคงต้องเคยมีบ้างกับความคิดที่ว่า ตายแล้วไปไหน บรรพบุรุษของเราที่ล่วงลับไปแล้วนั้น ก็ไม่เคยมาบอกซะด้วยสิว่ามีมิติวิญญาณหรือไม่ ทุกวันนี้มีหลายรายการสนุก เกี่ยวกับ การล่าท้าผีเพื่อพิสูจน์ซึ่งก็ต้องใช้วิจารณญาณของตัวเองในการตัดสินใจว่าเรื่องไหนจริงเท็จด้วยตัวเอง คนไทยเชื่อว่าบรรพบุรุษยังคงมีอิทธิพลต่อชีวิตของลูกหลาน วิญญาณเหล่านี้มักได้รับการเคารพและทำบุญให้ เพื่อให้เกิดความสงบสุขในโลกหน้า ตามความเชื่อทางพุทธศาสนา วิญญาณของมนุษย์จะเวียนว่ายตายเกิดตามกรรมที่กระทำในชาติก่อน การทำดีจะนำไปสู่การเกิดในภพภูมิที่ดี ส่วนการทำชั่วอาจทำให้ต้องประสบกับความทุกข์ในชีวิตถัดไป วิญญาณสามารถแบ่งออกเป็นผีดีและผีร้าย ผีดีมักจะเป็นผู้ที่คอยช่วยเหลือหรือให้ความคุ้มครอง ส่วนผีร้ายอาจเกิดจากความไม่สงบหรือกรรมชั่วที่ยังค้างคา มีความเชื่อในเรื่องการสื่อสารกับวิญญาณผ่านพิธีกรรมหรือการทำบุญ เพื่อขอพรหรือขอโทษจากวิญญาณที่เราทำให้ไม่พอใจ ในบางประเพณี เช่น วันสงกรานต์หรือวันเข้าพรรษา มีการทำบุญเพื่อปล่อยวิญญาณให้ไปเกิดใหม่หรือให้ได้รับการปลดปล่อยจากความทุกข์ มิติวิญญาณนี้สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมโยงระหว่างชีวิตและความตาย ความสัมพันธ์ระหว่างคนกับวิญญาณยังคงมีความสำคัญในวัฒนธรรมไทยจนถึงปัจจุบันสวรรค์ นรกมีจริงไหม ขึ้นอยู่กับความเชื่อของแต่ละบุคคลบางคนก็เชื่อบางคนก็ไม่เชื่อว่ามีจริงเป็นเพียงคำสอนซึ่งนั่นก็ไม่ผิด สวรรค์และนรกเป็นแนวคิดที่ปรากฏอยู่ในศาสนาหลายศาสนา รวมถึงพุทธศาสนาและศาสนาอื่น ๆ…

0 Comments