Blog

1 ในเรื่องราวสุดสยองขวัญที่มีอาถรรพ์น่าสะพรึงกลัวในความหลอน เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ฉันและแฟนได้พบเจอตอนตี 2 ในช่วงเวลาที่ฉันกลับจากการทำงานที่โรงงานและกำลังที่จะเข้าไปยังห้องเช่าของตัวเอง สวัสดีฉันชื่อ เก๋ เป็นหนึ่งในหญิงสาวที่เป็นผู้หญิงทำงานโรงงานภาคค่ำ เส้นทางนี้เป็นเส้นทางที่พวกเราจะต้องมารอรถทัวร์ ก่อนที่จะไปทำงานและฉันก็ต้องมายืนรอในจุดนี้อยู่บ่อยครั้งมากๆ เลย บริเวณข้างวัดนั้นเป็นบ้านร้างและเคยมีเหตุการณ์เกี่ยวกับคนตายเกิดขึ้น แต่ฉันเองก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ จนกระทั่งเกิดความสยองขวัญและความหลอนเกิดขึ้นกับตัวของฉันเอง ฉันจำได้วันที่ 5 เดือนเมษายนในช่วงนั้น ฉันกะว่าจะใกล้เทศกาลสงกรานต์ จึงได้หักโหมทำงานเป็นอย่างหนัก ในตอนนั้นฉันได้ย้ายเข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ ได้ไม่นานและฉันได้เช่าห้องพักบริเวณใกล้กับวัด เพราะว่าค่าเช่าถูก แต่สิ่งที่ฉันได้พบเจออยู่บ่อยครั้ง นั่นก็คือแถวนั้นมีการมั่วสุมเสพยาและมีคนตายอยู่บ่อยมาก ชาวบ้านได้เล่าหรือว่าแถวนี้เฮี้ยนมาก แต่ว่าฉันก็ไม่ได้พบเจอเรื่องประหลาดอะไร จนอยู่ในช่วงขากลับบ้านตอนประมาณตี 3 กว่าๆ ฉันได้พบเจอกับเรื่องประหลาดในช่วงนั้น…

ความตายสามารถเยือนได้ทุกคนแม้กระทั่งคนฝังศพ ก็สามารถตายได้ เรื่องนี้เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นที่วัดที่ปทุมเกี่ยวกับสัปเหร่อที่อายุ 98 ปีและเสียชีวิตในช่วงเวลายามวิกาล ทำให้เด็กวัดอย่างผมและคนในหมู่บ้านต่างวิ่งหนี ความหลอนที่ทำเอาคนทั้งวัดอยู่ไม่ได้ จนต้องไปอยู่ในโบสถ์ น่าสะพรึงกลัวสุดๆ เลย สวัสดีผมชื่อ ตั้ม ในช่วงเวลาเดือน 4 ปี 2015 ได้เกิดความสูญเสียครั้งใหญ่ของวัดโภชนาราม ที่ปทุมธานี คนที่นั่นรู้จักกันดีว่าสัปเหร่อ ตาชื่นนั้นเป็นคนที่มีคาถาอาคมวิชาและมีของ แม้กระทั่งหลวงพ่อก็ยังให้ความเคารพในตัวแก ที่ได้ทำงานในวัดแห่งนี้มานานเสียจนตัวแก่สิ้นชีพ แต่สิ่งที่แกบอกก่อนตาย นั่นก็คือสิ่งที่สำคัญมาก พิธีกรรมการถอดของออกจากตัวแกเอง ในคืนนั้นแกได้เสียชีวิตยามกลางคืน แกบอกให้ถอดของออกจากร่างในช่วงที่อยู่ในกลางวันแสกๆและนั่นก็คือเหตุการณ์ความหลอนสุดเฮี้ยน ที่ทำเอาหลายๆ คนต่างหวาดกลัวและทำเอาผู้ที่ได้เจอะเจอความหลอมอยู่ในวัดนั้นไม่ได้เลยทีเดียว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่แกเสียชีวิต…

สำหรับคนที่ต้องสัญจรในพื้นที่หรือใช้เส้นทางหนึ่งอยู่เป็นประจำแทบทุกวัน ก็น่าจะพอทราบกันดีแล้วถึงกรณีที่ถนนแต่ละเส้นทางมักจะมีตำนานของตนเอง โดยจะเป็นตำนานเรื่องเล่าถึงสิ่งลี้ลับหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำถนน พอเป็นไม่ให้ผู้คนขับรถยนต์ โดยประมาณโดยเรื่องในวันนี้เป็นเรือ่งที่เริ่มจากมีคนไปเล่าเรื่องผีให้รายการหนึ่งว่า เขาเป็นคนขับรถบรรทุกส่งของ ในวันหนึ่งในขณะที่กำลังขับรถบรรทุกไปในถนนเส้นดังกล่าว ก็กลับเจอกับร่างของหญิงสาวคนหนึ่งเสื้อผ้าขาดครึ่งโบกมือขอความช่วยเหลืออยู่ริมถนน หากแต่ด้วยความที่ในช่วงเวลานั้นเป็นช่วงเวลาที่ดึกและมันก็อยู่ในเส้นทางเปลี่ยว เขาจึงไม่ได้จอดรถให้ความช่วยเหลือประกอบกับในยุคนั้นยังไม่มีโทรศัพท์มือถือทำได้เพียงขับรถรีบต่อไปหาตัวเมืองอำเภอหรือป้อมตำรวจที่ใกล้ที่สุด หลังจากแจ้งความให้ตำรวจทราบแล้วพวกเขาก็ไม่ตามเรื่องต่อ ซึ่งในเวลาต่อมาก็มีข่าวออกมาว่าพบศพของหญิงสาวถูกทำร้ายเสียชีวิตอยู่บริเวณริมถนนข้างทางบริเวณนี้ และหลังจากนั้นเป็นต้นมาดูเหมือนว่าวิญญาณของหญิงสาวจะแค้นคนขับรถบรรทุกที่ไม่ให้การช่วยเหลือเธอในวันนั้นจนเธอถูกจับมาทำร้ายจนถึงแก่ความตาย มักจะปรากฏตัวออกมาหลอกหลอนคนที่ขับรถบรรทุกอยู่เสมอ โดยส่วนใหญ่มักจะปรากฏตัวเป็นสาวคนหนึ่งมาวิ่งไล่ ปาดหน้า เคาะกระจกรถยนต์ที่เป็นรถบรรทุกซึ่งกำลังวิ่งด้วยความเร็วสูง แต่ก็ใช่ว่าเรื่องราวสยองขวัญจะเกิดกับเพียงคนขับรถบรรทุกสินค้าเพียงเท่านั้น โดยอีกหนึ่งเรื่องราวที่เล่าถึงสาวคนดังกล่าวที่เกิดกับคนขับรถยนต์คันอื่นก็มีเช่นเดียวกัน โดยเรื่องราวกล่าวถึงชายหนุ่มหญิงสาวคู่หนึ่งที่เดินทางด้วยรถเก๋ง 4 ประตู วิ่งไปตามเส้นทางดังกล่าว ซึ่งในจังหวะนั้นพวกเขาได้ขับรถไปจ่อท้ายรถบรรทุกสินค้าคันหนึ่ง ทันใดนั้นเอง เมื่อแสงไฟหน้าสาดส่องไปที่บริเวณท้ายรถบรรทุก เขากลับพบเห็นร่างของหญิงสาวผมยาวสภาพดูไม่ได้เลือดสาดเต็มตัวในชุดเสื้อผ้าขาดวิ่งน่าสยองนั่งห้อยขาอยู่บนหลังคารถบรรทุก เขาพยายามบีบแตกบอกให้คนขับรถบรรทุกทราบ แต่ก็เหมือนคนขับรถบรรทุกคันนั้นไม่ได้ยินแต่อย่างใด เช่นเดียวกับรถคันอื่นที่ขับผ่านไปก็พยายามบีบแตรแจ้งให้คนขับรถบรรทุกคันนั้นทราบแต่ก็ไม่เป็นผลเช่นกัน…

สำหรับท่านผู้อ่านที่ชื่นชอบอ่านเรื่องราวต่างๆก็น่าจะเคยพอได้ยิน เกี่ยวกับกรณีเรื่องราวความเชื่อเกี่ยวกับคุณไสยมนต์ดำไสยศาสตร์ลึกลับต่างๆมาบ้างไม่มากก็น้อย โดยเรื่องราวของเราเกิดขึ้นกับผู้บริหารท่านหนึ่งซึ่งถูกส่งมาจากประเทศญี่ปุ่น เพื่อมาทำงานกับบริษัทสาขาในประเทศไทย โดยเขาเป็นผู้อาวุโสอายุประมาณ 50 ปีแล้ว และไม่เชื่อเรื่องผีและวิญญาณลึกลับหรือคุณไสยเลย อย่างไรก็ตาม กลับมีลูกน้องชาวไทยคนหนึ่งทักว่าเขาเห็นลางไม่ดีที่ใบหน้าของผู้บริหารชาวญี่ปุ่นท่านนี้ คำตอบที่ได้คือคำดุด่าว่ากล่าวลูกน้องชาวไทยเพราะหัวหน้าชาวญี่ปุ่นไม่เชื่อถือกับเรื่องไสยศาสตร์ที่มีเรื่องเล่าในประเทศไทยมาอย่างยาวนานเลย แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์ขึ้นเมื่อในระหว่างที่หัวหน้ากำลังจะเดินลงบันไดระหว่างชั้นในตึกที่ทำงาน กลับรู้สึกเหมือนมีใครสักคนผลักจนเสียหลักตกลงมาทางบันไดขาหัก รวมทั้งปรากฏว่าในระหว่างที่เขานั่งทำงานอยู่ไฟก็จะติด ๆ ดับ ๆ ในห้องที่ทำงานบ้าง เจอภาพหลอน ๆ จากภูตผีวิญญาณต่าง ๆ บ้าง ในที่สุดหัวหน้าชาวญี่ปุ่นก็ต้องยอมเชื่อกับเรื่องลึกลับเหล่านั้น โดยลูกน้องชาวไทยผู้ที่เข้ามาทักหัวหน้า ได้พูดมาว่าอาการที่หัวหน้าเป็นอยู่นั้นคล้ายกับคนที่โดนของหรือไสยศาสตร์มนต์ดำของไทย จำเป็นจะต้องไปหาอาจารย์ทำการแก้ของหรือเอาสิ่งไม่ดีที่ถูกส่งเข้ามาในตัวนั้นออกไปไม่เช่นนั้นดวงชะตาอาจจะถึงฆาตได้ และเมื่อพบเจอเรื่องราวที่ไม่ดีมาก่อนหน้านี้ทำให้หัวหน้าชาวญี่ปุ่นเริ่มเชื่อสนิทใจและยินยอมตามลูกน้องชาวไทยคนดังกล่าวให้ไปพบอาจารย์ของเขา ซึ่งเปิดสำนักทรงเจ้าอยู่ในจังหวัดหนึ่งทางภาคอีสานซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังทางด้านการเล่นของคุณไสยและอาคมจากประเทศเขมร ซึ่งแน่นอนว่าการถอนของก็ต้องมีค่าใช้จ่าย…