กลับเถอะเพื่อน

ขอสวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่าน และยินดีที่ได้กลับมาพบกันอีกครั้งกับเรื่องราวหลอน ๆ และโลกแห่งความลี้ลับ ตำนานเล่าขานต่าง ๆ และบทความหลอน ๆ ของเราในตอนนี้ขอเสนอในชื่อตอน “กลับเถอะเพื่อน” โดยเรื่องราวของเราเกิดขึ้นกับชายหนุ่มคนหนึ่งซึ่งเป็นคนในต่างจังหวัด ที่เราจะขอสมมุตินานตามท้องเรื่องให้ว่าคุณเอส ในช่วงวัยรุ่นเขาก็มีเพื่อนสนิทหัวหกก้นขวิดมาด้วยกันหลายคน แต่คนที่เรียกได้ว่าสนิทกันที่สุดจนเป็นเพื่อนตายเลยก็ว่าได้ก็คือคุณเอ็ม ทางแยกของชีวิตมาถึงเมื่อคุณเอสต้องเดินทางมาศึกษาต่อในกรุงเทพฯ เมื่อศคกษาจบแล้วก็ทำงานต่อในเมืองกรุงแห่งนั้นนั่นเอง แต่ถึงแบบนั้นเพื่อนรักสองคนก็ยังคงติดต่อกันอยู่สม่ำเสมอ จนกระทั่งมาช่วงปีนึงที่การติดต่อขาดช่วงไปด้วยความที่คุณเอสมีงานหนักต้องทำ ทำให้ขาดการติดต่อกับเพื่อนรักไป ข่าวล่าสุดที่เขาทราบก็คือคุณเอสแต่งงานมีครอบครัวกับผู้หญิงที่เขารักไปแล้ว ที่สุดหลังจากไม่ได้ติดต่อกันนานหลายเดือนคุณเอสก็เกิดอยากจะเซอร์ไพรส์เพื่อนรักของเขา จึงได้ทำการลางานและเดินทางกลับไปเยี่ยมบ้านเกิดของตนเองโดยไม่ได้บอกให้คุณเอ็มทราบ เย็นของวันคุณเอสนั้นก็เดินทางไปบ้านของคุณเอ็มเพื่อนตนอื่น พอไปถึงหน้าบ้านก็ค่ำเต็มที่แล้ว หลังจากซื้ออาหารเครื่องดื่มมาพร้อมก็เคาะประตูเรียกที่หน้าบ้าน สักพักหนึ่งเพื่อนของเขาคือคุณเอ็มก็เปิดประตูออกมารับเขาด้วยใบหน้าที่แสนจะดีใจ แต่พอคุณเอสสอบถามถึงภรรยาคนอื่นเจ้าตัวก็ทำหน้าเศร้าหมองพร้อมกับบอกว่ามีเรื่องทะเลาะกันทำให้ภรรยาของเขาหนีกลับบ้านแม่ตนเองไปแล้ว พอได้ยินแบบนั้นคุณเอสก็กล่าวปลอบใจคุณเอ็มพร้อมกับจัดแจงชวนเพื่อนนั่งกินข้าวพร้อมกับเครื่องดื่มที่ห้องโถงของบ้านหลังนั้น และแล้วช่วงเวลาที่น่าสะพรึงกลัวก็มาถึง พอนาฬิกาเข็มบอกเวลาใกล้สี่ทุ่ม…

0 Comments

น้องมาเอาขนมไปทาน

ขอสวัสดีทุกท่านและยินดีที่ได้กลับมาพบกันอีกครั้ง กับเรื่องราวลึกลับสยองขวัญสั่นประสาท ที่เรามักจะมีเรื่องแปลกๆ น่ากลัวมาเล่าสู่กันฟังหลายครั้ง และอีกหนึ่งเรื่องราวที่เราจะขอนำเสนอในวันนี้จะขอเสนอในชื่อเรื่อง “น้องมาเอาขนมไปทาน” โดยเรื่องราวของเราเกิดขึ้นในประเทศไทยนี่เอง ซึ่งมันเกิดขึ้นกับสุภาพสตรีท่านหนึ่งที่ชื่อว่าคุณแก้ว(นามสมมุติเช่นเดิม) ด้วยคุณแก้วเป็นผู้หญิงวัยทำงาน จำเป็นต้องย้ายไปรับตำแหน่งใหม่ตามที่บริษัทโยกย้าย โดยจังหวัดที่คุณแก้วไปก็เป็นจังหวัดหนึ่งทางภาคอีสาน ด้วยความที่เป็นคำสั่งย้ายเร่งด่วนจึงไม่มีเวลาหาที่พักดีๆ สักเท่าไหร่ ได้แต่เลือกเข้าไปพักหอพักขนาดเล็กกลางเก่ากลางใหม่แห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้ที่ทำงานใหม่ หลังจากเข้าพักอาศัยแล้วคุณแก้วก็สังเกตเห็นว่าที่หอพักแห่งนี้มักจะมีเด็กผู้หญิงและผู้ชายคู่หนึ่งวิ่งเล่นในบริเวณหอพักบ่อยครั้ง โดยเห็นเด็กทั้งสองคนมักจะเปิดประตูเข้าไปในห้องพักห้องหนึ่ง ด้วยความที่คุณแก้วเธอรักเด็กทำให้นึกครึ้มอกครึ้มใจซื้อขนมเข้ามาในบ้านตอนเย็นพอเห็นเด็ก 2 คน มาวิ่งเล่นกันช่วงค่ำคาดว่าผู้เป็นพ่อและแม่อาจมีธุระหรือต้องไปทำงานในกะกลางคืนก็เป็นได้ถึงปล่อยให้เด็กมาวิ่งเล่นแบบนี้ และแม้ว่าคุณแก้วจะเป็นห่วงเด็กก็ตามแต่ก็ไม่กล้าจะเข้าไปเตือนพ่อแม่เด็กแต่อย่างใดได้แต่หาโอกาสเรียกเด็กทั้งสองคนว่า “น้องมาเอาขนมไปทาน” เด็กทั้งสองในตอนแรกก็ทำท่าจะกล้ากลัวๆ แต่ด้วยความน่าจะอยากกินขนมเพียงเดินมายกมือไหว้และรับขนมจากคุณแก้วไปทาน ความสัมพันธ์ของพี่แก้วกับเด็กทั้งสองก็เริ่มต้นแบบนี้และพัฒนาความสัมพันธ์ไปเรื่อยๆ ทำให้นอกจากขนมแล้วพี่แก้วก็ว่าจะซื้อขนมเอาไปให้ที่หน้าห้องพักของเด็กทั้งสองคนบ่อยๆด้วยความสงสัย แต่ก็เริ่มเอะใจขึ้นว่าพี่แก้วไม่เคยเห็นคุณพ่อคุณแม่ของเด็กทั้งสองคนนั้นเลยแต่อย่างใด อยู่มาวันหนึ่งในช่วงกลางวันที่คุณแก้วกำลังทำงานอยู่ก็ได้รับโทรศัพท์จากผู้ดูแลหอพักถามว่า คุณแก้วใช่ไหมเป็นคนที่มักจะซื้อขนมอาหารหรือไม่ก็ของเล่นมาวางทิ้งไว้ในห้องพักห้องหนึ่งในหอพักเสมอ คุณแก้วก็ตกใจฟังบอกว่าเธอซื้อมาให้เด็ก…

0 Comments

เพื่อนรักที่กลับมา

ขอสวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่านที่ได้กรุณาเข้ามาอ่านและติดตามเรื่องราวสยองขวัญ เรื่องผีและเรื่องลี้ลับต่างๆ กับเราอยู่บ่อยครั้ง ด้วยเราสัญญาว่าจะสรรหาเรื่องราวดีๆ สนุกสนานน่ากลัวและเขย่าประสาทมานำเสนอท่านให้มากขึ้น สำหรับบทความเรื่องผีของเราในวันนี้จะขอนำเสนอในชื่อเรื่อง “เพื่อนรักที่กลับมา” ซึ่งเรื่องราวของเราเกิดขึ้นกับเพื่อนรักสองคนคือคุณเอกับคุณบี หญิงสาวทั้งสองเป็นเพื่อนรักที่รู้จักกันตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย ทั้งสองสนิทสนมกันเป็นอย่างมาก จึงได้ตัดสินใจเช่าหอพักอยู่ด้วยกันตั้งแต่สมัยเรียนคุณเอนั้นจะมาจากครอบครัวที่ร่ำรวยมีฐานะมากหากแต่เรียนไม่ค่อยจะเก่ง ในขณะที่คุณบีในฐานะไม่ค่อยจะดีนักแต่เป็นคนที่มีความพยายามเรียกได้ว่าเป็นเด็กเรียนเข้าขั้นเพราะต้องทุ่มเทตัวเองเพื่อยกฐานะของครอบครัวให้จงได้ หลังเรียนจบทำงานทั้งสองก็ยังพักอยู่ด้วยกันโดยอาศัยอยู่ในคอนโดมิเนียมที่ครอบครัวของคุณเอซื้อให้ ซึ่งทั้งสองก็ช่วยเหลือกันกับสถานะเพื่อนสนิทกันอย่างดีจนกระทั่งอยู่มาวันหนึ่งทั้งสองเกิดมีปากเสียงกันขึ้นอย่างรุนแรงในเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง ทำให้คุณบีที่อยู่ในฐานะผู้อาศัยได้ตัดสินใจขอตัวเดินทางกลับไปอยู่ที่บ้านสัก 2-3 วัน เพื่อให้ตนเองและคุณเอใจเย็นลงสักหน่อย พอถึงเวลาที่คุณบีใจเย็นลงและกลับมาที่คอนโดมิเนียม พบว่าคุณเอยังไม่อยู่ในห้อง ซึ่งคุณบีก็อาบน้ำแต่งตัวเข้านอนจนกระทั่งได้ยินเสียงคนเปิดประตูเข้ามาปรากฏว่าเป็นคุณเอ ซึ่งทั้งสองคนก็ได้มีโอกาสพูดคุยปรับความเข้าใจก่อนที่เพื่อนรักทั้งสองจะนอนจับมือกันบนเตียง แต่ถึงแม้อย่างนั้นคุณบีก็รู้สึกว่าตนได้ยินเสียงของคุณเอแอบนอนสะอื้นร้องไห้อยู่ทั้งคืนแม้ว่าคุณบีจะพยายามปลอบ อย่างไรก็ตาม จนกระทั่งทั้งสองคนเผอหลับไปด้วยความเหนื่อยอ่อน โดยคุณบีก็ไม่รู้ว่าเหตุใดคุณเอถึงได้ร้องห่มร้องไห้มากมายขนาดนี้ แต่ที่คุณบีจำได้นั่นก็คือคำที่คุณเอพูดย้ำๆออกมาว่าเธอนั้นรักคุณบีมากนะ เพราะคุณบีเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเธอ เช้าวันต่อมาคุณบีต้องสะดุ้งตื่นจากเสียงของโทรศัพท์ที่มีสายเรียกเข้าดังลั่นติดต่อกันไม่หยุด ซึ่งหลังจากรับสายก็พบว่าปลายสายเป็นเสียงของเพื่อนในกลุ่มเดียวกันโทรมาสอบถามว่าตกลงเธอจะไม่มางานวันนี้เหรอ…

0 Comments

หาเรื่องใส่ตัว

นนท์เป็นเด็กที่นิสัยดีและน่ารักสำหรับทุกคน และนนท์ยังมีเพื่อนสนิทชื่อต๋อง แต่ต๋องนิสัยต่างกันกับนนท์เป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นคำพูดหรือกิริยาต่างๆ แต่ทั้งคู่ก็สามารถเป็นเพื่อนกันได้และเข้ากันได้ดี จนวันหนึ่งต๋องมีคนมาหาเรื่องที่หน้าโรงเรียน แต่ดันเป็นนนท์ที่เข้าไปช่วยและจนเรื่องทั้งหมดต้องตกไปอยู่ที่นนท์ วันที่นนท์รับแทน นนท์เป็นเด็กหนุ่มที่นิสัยดีมีเมตตา และเพื่อนสนิทของนนท์ชื่อต๋องที่นิสัยไม่ดีและเกเรต่างกันมาก เลยทำให้พ่อแม่ของนนท์มักจะคอยตักเตือนนนท์อยู่เสมอในทุกๆเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการคบเพื่อนอย่างเช่นต๋อง เพราะกลัวว่านนท์จะมีนิสัยตามต๋องจนกลายเป็นเด็กที่เกเร และมักจะคอยห้ามอยู่เสมอ วันหนึ่งต๋องได้ไปมีเรื่องกับเด็กที่ต่างโรงเรียนเพราะเรื่องที่ไปชอบผู้หญิงคนเดียวกัน เลยทำให้ฝั่งนั้นไม่ชอบหน้าของต๋องเป็นอย่างมาก จึงทำให้ต๋องถูกหมายตาเอาไว้ด้วยความโกรธเพราะทางนั้นเขาแอบชอบและตามจีบมานาน และฝั่งของเด็กที่หาเรื่องได้พูดกับต๋องว่าถ้าต๋องเผลอเมื่อไหร่ เท่ากับว่าวันนั้นเป็นวันที่ต๋องจะโดนทำร้ายหรืออาจถึงแก่ชีวิตให้ระวังไว้ให้ดี แต่ต๋องก็ไม่ได้ใส่ใจในคำพูดของฝั่งตรงข้ามสักเท่าไหร่คิดแค่ว่าเป็นแค่เรื่องสนุก ในวันที่เกิดเหตุการณ์ วันนั้นเป็นช่วงเวลาเลิกเรียน เวลาประมาณ 17:00 น. นนท์และต๋องออกมารอรถเมย์ที่หน้าโรงเรียนเพื่อที่จะขึ้นรถกลับบ้าน แต่แล้วจู่ๆก็มีกลุ่มเด็กนักเรียนต่างโรงเรียนมุ่งหน้าตรงเข้าทางนนท์กับต๋อง แต่นนท์เห็นท่าไม่ดีและต๋องไม่ได้ระวังตัว จึงทำให้นนท์เอาตัวบังแทนเลยทำให้โดนมีดแทงเข้าเต็มๆ เด็กต่างโรงเรียนเอามีแทงโดนนนท์จนมิดด้าม…

0 Comments