Blog

ความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องคุณไสย หลายคนคิดว่าเป็นเรื่องงมงาย แต่ว่าฉันนั้นได้เจอกับตัวมา เป็นคนที่อยู่ในครอบครัวและคอยสนับสนุนการใช้ชีวิต พี่เขยของฉันที่ดูแลที่บ้านเป็นอย่างดี แต่พี่สาวของฉันนั้นเป็นคนที่ทำงานโรงงานและชอบสังสรรค์มาก ในบางครั้งก็ไปเที่ยวอยู่บ้านเพื่อน เหมือนจะเกิดการทะเลาะเบาะแว้งกันเป็นประจำ พี่เขยของฉันนั้นก็มีอาการที่แปลกๆ ไป เหมือนโดนคุณไสยจากผู้มีอาคม อาการเหล่านั้นทำให้คนในบ้านหวาดวิตกเป็นอย่างมาก ว่าเกิดอะไรขึ้นจนถึงขั้นครอบครัวแตกแยกเลยทีเดียว วิญญาณหลอนจากคุณไสยและหมอผี  ในช่วงนั้นเป็นเดือน 9 ของปี 2557 ฉันจำได้เป็นอย่างดีว่า พี่เขยของฉันเป็นคนที่ขยันมาก แต่ในช่วงเช้าของอีกวันหนึ่งเขาก็เริ่มเปลี่ยนแปลงไป เหมือนกับคนที่ไม่ค่อยมีสติสตางค์ ลักษณะหน้าซีดและดวงตาเปิดโพรง เขานั้นไม่เหมือนเช่นเคย ฉันเลยเข้าไปถามว่าเป็นอะไรหรือเปล่า แต่เขาก็ส่ายหน้าแล้วยิ้มออกมาเพียงเท่านั้น ฉันไม่ได้คิดอะไรมาก จึงได้ไปเรียนหนังสือ แต่กลับมาก็พบเจอกับเรื่องที่แปลกประหลาดพอสมควร พี่ชายของ…

หนึ่งในบ้านร้างทรงไทยที่มีชื่อเสียงมาก นั่นก็คือบ้านร้างที่เชียงรายนี่แหละที่น่ากลัวสุดๆ หลายคนได้บอกเล่าเรื่องราวสยองขวัญชวนขนหัวลุก ในคืนจันทร์ดับถือว่าเป็นวันสุดเฮี้ยนของที่นั่น ในการเผชิญหน้ากับวิญญาณและนั่นจึงทำให้รุ่นพี่ของฉันเกิดสนุก ตอนนั้นฉันเป็นนักศึกษาปี 1 มหาลัยราชภัฏ จึงได้ลองไปท้าความกล้า น้องใหม่ในกลุ่มสถาปัตย์ ประมาณ 10 คน การหยอกล้อของความตายในเรื่องราวสุดสยอง  สิ่งที่รุ่นพี่สั่งให้ไปจัดกิจกรรมภายนอก แถวนั้นอยู่ใกล้บ้านร้างทรงไทยที่มีชื่อเสียงมาก ก่อนที่จะเข้าไปพี่เขาได้กล่าวออกมาให้พวกเราในกลุ่มน้องใหม่ของมหาวิทยาลัย ที่เป็นกลุ่มนักศึกษาได้ฟัง ถึงประวัติความเป็นมาของที่นี่ ซึ่งชวนหลอนสุดๆ เลย หลังจากนั้นรุ่นพี่ก็ปล่อยให้เราเข้าไปทีละ 5 คน แน่นอนว่าทางผมเป็นกลุ่มที่ 2 และในตอนนั้นก็ได้ยินเสียงร้องของผู้ชายและผู้หญิงที่หวาดกลัวและไม่กล้าเข้าไป รุ่นพี่ทุกคนมองดูเหมือนจะสนุกสนานและก็ได้เตรียมสีมาทาหน้าเหมือนกับการทำโทษ ในช่วงเวลานั้นเป็นช่วงเวลาประมาณตี 3…

เรื่องราวนี้เป็นเรื่องราวของผมที่เรียกได้ว่าเกิดขึ้นเพราะความปากหมา ผมได้ไปกับครอบครัวของตัวเองไปทำบุญที่วัด แต่ผมเป็นคนที่ดื่มเหล้าหนักมาก แถมยังมีนิสัยที่โผงผาง จึงทำให้ญาติๆ ให้ผมรออยู่ข้างล่างนั่นเอง ผมก็นั่งกินเหล้าขาวอยู่เช่นเคย บริเวณข้างวัดก็มีที่เก็บกระดูกเป็นจำนวนมาก อีกสักพักหนึ่งก็มีป้าแกเดินมาตามผมก็ลุกขึ้นมา บริเวณตรงนั้นมีที่เก็บกระดูกของหญิงสาว สวมใส่เสื้อผ้าเสื้อสีแดงและมีเสื้อข้างนอกสีชมพู เป็นรูปของเธออยู่ที่หน้าเก็บกระดูกตรงบริเวณนั้นพอดี ด้วยความเมาผมเลยพูดว่า สวยขนาดนี้ไม่น่าตายเลย แล้วก็กล่าวออกไปว่า เป็นเมียพี่ไหมจ๊ะ ป้าแก่ตกใจเป็นอย่างมาก ด่าผมว่าปากหมาเดี๋ยวโดนหักคอแน่มึง แต่เรื่องแบบนั้นผมก็ไม่คิดอะไรมาก หารู้ไหมว่าหลังจากนั้นประมาณ 3 - 4 วัน ก็เกิดเรื่องประหลาดเกิดขึ้น นั่นก็คือเรื่องสุดสยองที่ผมได้ไปท้าทายกลับกลายที่ต้องมาพบเจอกับเรื่องสุดเฮี้ยน ที่ทำให้ผมเองก็เกือบที่จะได้ตายจริง เกือบไม่มีชีวิตรอดในช่วงครบ 7 วัน…

แน่นอนว่าหลายๆ คนก็คงอยากจะใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ ผมเองก็เป็นอีกคนหนึ่งที่เคยใฝ่ฝันว่าจะโบกรถขึ้นเขาใหญ่ เพื่อเป็นประสบการณ์ชีวิตสักครั้งหนึ่ง ผมก็ได้ทำตามความฝัน ในวันนั้นผมได้เดินทางไปถึงครึ่งทางแล้วเป็นอะไรที่สุดยอดมาก ผมได้พบเจอผู้คนมากมายที่ให้ซ้อมมอเตอร์ไซค์ นั่งท้ายรถกระบะหรือแม้กระทั่งไปกับเพื่อนที่ออกแนวปาร์ตี้ร่วมทาง ในตอนนั้นเป็นตอนเย็นใกล้ค่ำ แต่ผมยังไปไม่ถึงที่พักของตัวเองเลย จุดเริ่มต้นของความสยองของรถทัวร์ 2 ชั้น  ในช่วงเวลานั้นผมไปพร้อมกีต้าร์คู่ใจและกระเป๋าเป้ 1 ใบ พร้อมรองเท้าคู่โปรด เดินไปตามริมทางและมีตะเกียงไฟฟ้าสุดเท่ บริเวณนั้นก็มีแสงไฟริบหรี่พอเห็นตามทางได้ แต่ไม่มีบ้านคน ในเวลานั้นผมจดจำได้เป็นอย่างดีประมาณ 22:00 น. กว่าๆนี่แหละที่ผมได้พบเจอกับรถทัวร์ 2 ชั้นที่ดูเก่า แต่ก็ดูแล้วน่าจะขอติดไปด้วยได้ ในตอนนั้นรถคันนั้นก็มาจอดอยู่ใกล้ๆ และเขาก็เปิดประตูจากด้านหลัง มีเสียงถามว่าไปด้วยกันไหม…