สำหรับผู้ที่ชื่นชอบเดินทางไปท่องเที่ยวหรือติดต่อธุรกิจ โดยเฉพาะผู้ที่มีเหตุต้องเดินทางระหว่างประเทศย่อมต้องคุ้นชินกับการขึ้นเครื่องบินโดยสารเป็นอย่างมาก
ซึ่งก็มีทั้งเส้นทางระยะสั้นไปในประเทศกับเส้นทางระยะไกลไปยังต่างประเทศ และไม่น่าเชื่อว่าเรื่องราวสยองขวัญก็อาจเกิดขึ้นได้ในยานพาหนะที่เรียกว่าเครื่องบินเช่นเดียวกัน โดยเรื่องราวของเราเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับสายการบินแห่งหนึ่งซึ่งให้บริการการบินอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกาเมืองหลวงแห่งดินแดนที่เชื่อในเรื่องวิทยาศาสตร์ แต่ก็หนีไม่พ้นเรื่องราวสยองขวัญแห่งโลกหลังความตายเช่นเดียวกัน
ในวันเกิดเหตุเครื่องบินโดยสารซึ่งเราขอสมมุติชื่อสายการบินว่า สายการบิน A ได้เปิดให้บริการผู้โดยสาร โดยเที่ยวบินที่เกิดเหตุเป็นเที่ยวบินที่จะต้องบินจากสนามบินนานาชาติ จอห์น เอฟ เคนเนดี้ ของเมืองนิวยอร์กไปยังสนามบินนานาชาติไมอามี่ ของรัฐฟลอริดา ในช่วงหลังเทศกาลวันคริสต์มาส ประมาณปี 1972
โดยเครื่องบินดังกล่าวเป็นเครื่องบินโดยสารขนาดใหญ่ 100 กว่าที่นั่ง ซึ่งในยุคดังกล่าว เทคโนโลยีการบินที่มีอย่างจำเป็นต้องใช้นักบินถึง 3 คน ด้วยกันคือกัปตัน นักบินผู้ช่วย และผู้ทำหน้าที่วิศวกรการบิน ซึ่งจะคุ้มในส่วนระบบคอมพิวเตอร์ต่าง ๆ ของเครื่องบิน ในขณะเกิดเหตุเมื่อใกล้เข้าสู่สนามบินเป้าหมายกลับปรากฏว่าไฟแสดงการเปิดใช้งานล้อเครื่องบินเพื่อลงจอดไม่สว่าง ทำให้เครื่องบินไม่สามารถลงจอดได้โดยปลอดภัย และนักบินทั้ง 3 ราย ได้เปิดระบบ Auto Pilot ให้ทำงานก่อนจะหาทางตรวจสอบซ่อมแซมระบบดังกล่าว
หากแต่ในระหว่างที่ทั้ง 3 ท่าน กำลังทำงานกันอยู่นั้นบังเอิญไปโดนที่คันบังคับทำให้ระบบ Auto Pilot ถูกปลดการทำงานเป็นระบบแมนนวลโดยที่ทั้ง 3 ท่านไม่ได้สังเกต ในที่สุดเครื่องบินก็วิ่งลงชนหนองน้ำแห่งหนึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นร้อย ที่น่าเศร้าใจก็คือจากผลการตรวจสอบพบว่าอุบัติเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นจากเพียงแค่หลอดไฟแสดงผลการทำงานของล้อเครื่องบินมันขาดและไม่ทำงานเท่านั้นแต่ล้อเครื่องบินนั้นได้มีการกางตามปกติแล้ว ซึ่งแม้ว่าตัวเครื่องบินจะเสียหายแต่ยังมีอุปกรณ์หลายอย่างยังคงทำงานได้ ทำให้สายการบินมีการนำเอาอุปกรณ์ราคาแพงที่ลิฟท์ขนของในเครื่องบินไปใช้กับเครื่องบินรุ่นเดียวกันลำอื่น รวมทั้งอุปกรณ์อีกหลายรายการ
ซึ่งว่ากันว่าเครื่องบินที่มีการนำอุปกรณ์ของเครื่องบินที่ตกไปใช้มีคนพบเจอผู้เสียชีวิตจากเครื่องบินที่ตกปรากฏตัวให้เห็นบ่อยครั้ง แม้แต่ผู้บริหารที่ได้นั่งเครื่องบินสายการบินตนเองก็ยังเคยเจอกัปตันที่เสียชีวิตจากเครื่องบินลำที่เรากล่าวมานั่งอยู่ข้าง ๆ ให้เห็นจะ ๆ ตามมาแล้ว หรือแม้แต่ภาพรองกัปตันที่ปรากฏตัวมาเอ่ยเตือนให้แอร์โฮสเตสบอกกัปตันท่านปัจจุบันในเครื่องบินลำนี้ว่าเครื่องเกิดขัดข้องซึ่งก็เกิดขึ้นจริงจนสามารถแก้ปัญหาได้ทันท่วงที แต่ด้วยความที่มีเสียงเล่าลือเรื่องผีอยู่มากทำให้ผู้โดยสารหวาดกลัวส่งผลให้สายการบินจำต้องตัดสินใจสังคายนาถอดอุปกรณ์เก่าเหล่านั้นออกจากตัวเครื่องบินลำใหม่ไปและเรื่องราวเหล่านั้นก็หายไปตามกาลเวลา