ความลี้ลับของจังหวะอ่างทอง เป็นสถานที่ฝังศพเฉพาะของเด็กเล็กและเด็กทารก เรื่องราวเหล่านี้มาจากประสบการณ์จริงของผม ลุงสนม มีหน้าที่เป็นสัปเหร่ออยู่ที่มานานมากกว่า 40 ปี ความจริงแล้วเรื่องแบบนี้นั้นเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้งมาก โดยเฉพาะเรื่องราวสุดหลอนที่คนอื่นหวาดกลัว แต่ผมได้พบเจอบ่อย นี่ก็คือเรื่องเล่าจากสิ่งที่ผมได้เจออยู่เป็นประจำ ที่อาจจะทำให้ทุกคนหวาดผวาและฝันร้ายได้ ถ้าหากใจไม่แข็งพอ
เรื่องสยองของสุสานและคนเฝ้า
ในช่วงกลางวันสถานที่นี้จะมีศพของเด็กที่เสียชีวิตจากการตายผิดปกติหรือเรียกว่าตายโหง มาทำพิธีที่นี่หลากหลายอย่างหลากหลายกรรม ในตอนช่วงกลางคืนสิ่งที่พบเจอบ่อยมากที่สุดคือเรื่องหลอนที่ผมจะต้องเจอทุกวัน
สิ่งที่ผมต้องเอามาไว้หน้าบ้านอยู่บ่อยครั้ง ก็จะมีทางด้านสมุดหนังสือ รวมไปถึงสีรถคันเล็กๆ ตุ๊กตาและก็ชิงช้า ในบางครั้งก็จะมีการเคลื่อนไหวอันแปลกประหลาด เหมือนกับเขาอยากมาหยอกล้อแน่นอนว่าผมมักจะนอนนอกบ้าน ด้วยการกางมุ้งเผื่อมีเรื่องฉุกเฉินนั่นเอง
และในคืนเดือนดับวันที่ 9 ของเดือนข้างแรม มักจะเป็นคืนเดือนมืดที่หลายคนรู้จักกันดีว่า ผีเฮี้ยนมากและในวันนั้นมักจะมีคนที่พบเจอเรื่องประหลาด ผมเองก็ต้องออกไปตรวจตาในยามวิกาลอย่างน้อย 1 ครั้งเช่นเดียวกัน
แล้วสิ่งที่ได้พบเจอในเหล่าบรรดาหลุมศพเด็กน้อย ในบางครั้งคนที่ขวัญอ่อนก็มักจะเจอกับดวงวิญญาณที่วิ่งตัดหน้าบริเวณด้านหน้าของสุสานนี้มีรถล้มอยู่บ่อยครั้ง เรียกได้ว่าทุกสัปดาห์เหมือนกับได้เจอเรื่องราวสุดหลอน และวิ่งหนีจากไป
แต่ก็มีอยู่คืนหนึ่งที่เกิดเรื่องราวสุดประหลาด ผมนั้นลืมเอาของเล่นต่างไปไว้ที่เตียงหน้าบ้าน ตอนนั้นผมเมามากจนลืมทุกสิ่งทุกอย่างและเรื่องราวสุดสยองก็ได้เกิดขึ้นกับตัวผมเอง
ในคืนนั้นผมได้ยินเสียงแว่วมา พร้อมกับความเย็นที่ต้นคอ ทำให้รู้สึกขนลุก แล้วผมเองก็ดื่มเหล้าหนัก จึงไม่ได้คิดอะไรมากเกี่ยวกับสิ่งที่ผมทำเป็นประจำในตอนนั้น ผมพยายามนอนบนที่นอนของตัวเองที่มีมุ้งกางไว้รอบๆ ทางด้านข้างและก็เผลอหลับลงไปทั้งอย่างนั้นเลย ในความฝันผมเห็นเด็กน้อยเรียกผมเป็นจำนวนมาก
ถามว่าลุงลืมผมแล้วเหรอ หลังจากนั้นก็ตะเกียกตะกายขึ้นมาจับที่ใบหน้า ผมนั้นรู้สึกได้ว่าในความฝันพวกเขาพยายามเอาผมไปเป็นของเล่นแทนสิ่งที่เขาขาดหายไปในตอนนั้น ผมจึงสะดุ้งตื่นขึ้นมาด้วยความตกใจ
ในตอนนั้นตัวของผมรู้สึกหนักอึ้งมากและหน้าก็ซีด แถมยังรู้สึกหนาวไปทั้งตัวเหมือนจะเป็นไข้ ผมคิดว่าตัวเองนั้นฝันไป แต่พอผมไปเห็นตรงผ้าห่มเห็นแววตาของเด็กตัวเล็กๆ มองสวนออกมาจากใต้ผ้าที่ผมเอาขาสอดเข้าไป ผมสร่างเมาแล้วลุกวิ่งออกไปในทันที
คืนนั้นผมไม่กล้าเข้าไปนอนที่สุสาน หลังจากนั้นทุกวันผมก็วางของเล่นและขนมเพิ่มเติมเอาไว้ซึ่งนี่เป็นเรื่องสยองขวัญของผมเองที่ได้เจอะเจอหนักยิ่งกว่าใคร ในทุกวันนี้ผมยังอยู่กับเด็กๆ เหล่านี้ไม่ไปไหน แม้กระทั่งเขาตายไปเขาก็ยังอยู่กับเราเหมือนอย่างเช่นเคย