หนึ่งในบ้านร้างทรงไทยที่มีชื่อเสียงมาก นั่นก็คือบ้านร้างที่เชียงรายนี่แหละที่น่ากลัวสุดๆ หลายคนได้บอกเล่าเรื่องราวสยองขวัญชวนขนหัวลุก ในคืนจันทร์ดับถือว่าเป็นวันสุดเฮี้ยนของที่นั่น ในการเผชิญหน้ากับวิญญาณและนั่นจึงทำให้รุ่นพี่ของฉันเกิดสนุก ตอนนั้นฉันเป็นนักศึกษาปี 1 มหาลัยราชภัฏ จึงได้ลองไปท้าความกล้า น้องใหม่ในกลุ่มสถาปัตย์ ประมาณ 10 คน
การหยอกล้อของความตายในเรื่องราวสุดสยอง
สิ่งที่รุ่นพี่สั่งให้ไปจัดกิจกรรมภายนอก แถวนั้นอยู่ใกล้บ้านร้างทรงไทยที่มีชื่อเสียงมาก ก่อนที่จะเข้าไปพี่เขาได้กล่าวออกมาให้พวกเราในกลุ่มน้องใหม่ของมหาวิทยาลัย ที่เป็นกลุ่มนักศึกษาได้ฟัง ถึงประวัติความเป็นมาของที่นี่ ซึ่งชวนหลอนสุดๆ เลย
หลังจากนั้นรุ่นพี่ก็ปล่อยให้เราเข้าไปทีละ 5 คน แน่นอนว่าทางผมเป็นกลุ่มที่ 2 และในตอนนั้นก็ได้ยินเสียงร้องของผู้ชายและผู้หญิงที่หวาดกลัวและไม่กล้าเข้าไป รุ่นพี่ทุกคนมองดูเหมือนจะสนุกสนานและก็ได้เตรียมสีมาทาหน้าเหมือนกับการทำโทษ ในช่วงเวลานั้นเป็นช่วงเวลาประมาณตี 3 กว่าๆ ในยามวิกาล ที่น่าหวาดกลัวซึ่งในคืนนั้นเป็นคืนเดือนมืด ทำให้บรรยากาศโดยรวมน่ากลัวสุดๆ เลย
กลุ่มแรกนั้นไม่กล้าที่จะเดินเข้าไปด้วยซ้ำ เพราะได้กลิ่นเหม็นเน่าและพบเจอบรรยากาศสุดหลอน แต่กลุ่มของเราเป็นพวกที่แลดูกล้าท้าทายมากและเป็นพวกที่อยากลอง นั่นจึงทำให้ได้ก้าวเข้าไปในเขตบ้านร้าง หลังนั้นพบกับเสียงประหลาดดังกล้องขึ้นมาในทันที
มีน้องคนหนึ่งหันไปมองทางด้านข้างด้วยส่องไฟฉายไปยังมุมตรง เขาบอกว่าเหมือนเห็นอะไรขาวๆ อยู่มุมนั้นเพื่อนอีกคนหนึ่งก็ได้เดินไปดู ก่อนที่จะก้าวไปถึงก็ได้ยินเสียงกระซิบ รวมไปถึงเสียงเดินจากทางด้านหลัง ของกลุ่มของเรา จึงรีบหันกลับไปด้วยความตกใจและหวาดหวั่น แต่ในจังหวะนั้นก็ไม่พบเจออะไร
รุ่นพี่บอกว่าไปถึงแต่ละห้องให้ส่องไฟฉายออกมา เราได้เดินเข้าไปในห้องต่อไป ซึ่งบ้านนั้นออกแบบมาเหมือนเป็นทางวนชั้นล่าง เป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า เหมือนตัวอาคารรุ่นเก่า พวกเราเข้าไปห้องที่ 2 ห้องที่ 3 ก็ไม่เจออะไรที่น่าหวาดกลัว แต่พอเรากำลังจะออกมาจากห้องนั้น ก็ได้หันไปเจอผู้หญิงสวมชุดไทยโบราณยืนอยู่บริเวณหน้าต่างและก็ผ่านไป ตอนนั้นผมเองและบรรดาสาวๆ ก็ขนลุก รวมไปถึงรู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างมาก
แถมบรรยากาศโดยรวมก็เริ่มเย็นยะเยือกเข้ามา พวกเรารีบวิ่งออกจากที่นั่นในทันทีทันใด มีเสียงไล่หลังและหน้าต่างก็กระพือแรงมาก สิ่งนั้นเกิดขึ้นที่ชั้น 2 ของบ้าน ที่ข้างบนนั้นไม่มีใครอยู่ เศษกระจกลงมากระแทกกับพื้นบ้านเสียงดังสนั่นและมีลมแรงขึ้นในทันใด
เหล่ารุ่นพี่และรุ่นน้องที่มาร่วมกิจกรรมด้วยกันในตอนนั้น ต่างตกใจวิ่งหนีไปคนละทิศคนละทางเลยและนั่นกลายเป็นเรื่องเฮี้ยนที่มาเล่าสู่กันฟังในวงนักศึกษาเกี่ยวกับบ้านร้างทรงไทยในคืนเดือนดับ ขอแนะนำเลยว่าไม่ควรไปเป็นอย่างมาก เพราะตั้งแต่นับเป็นต้นมา พวกเราไม่กล้าเดินผ่านที่นั่นอีกเลย