วิญญาณหลอนที่สถานีหัวรถไฟโคราช

You are currently viewing วิญญาณหลอนที่สถานีหัวรถไฟโคราช

สวัสดีผมเป็นหลานชายของปู่ที่เคยประสบพบเจอกับเรื่องราวสุดประหลาดสถานีรถไฟของจังหวัดนครราชสีมาและมีอยู่หลากหลายสถานที่ มีทั้งความสวยงามและความโดดเด่นเป็นอย่างมาก แต่ก็มีสิ่งหนึ่งที่น่ากลัวสุดๆ

นั่นก็คือทางด้านสถานีหัวรถไฟประจำจังหวัดนครราชสีมานั่นเอง ในปัจจุบันมีเนื้อที่มากกว่า 70 ไร่และยังมีโรงงานต่อรถไฟอยู่ที่นั่น คุณปู่ของผมเป็นคนขับรถซาเล้งและขับรถสามล้อรับส่งแม่ค้าในช่วงตลาดตอนเย็นและในช่วงกลางคืน เป็นคนที่ขยันมาก ซึ่งมักจะได้รับความเมตตาจากเหล่าบรรดาแม่ค้าเรียกใช้บริการและได้ของฝากเป็นผักบ้างเป็นเนื้อหมูเนื้อไก่บ้างเป็นประจำ นอกจากเงินที่แกได้รับเป็นค่าโดยสารค่าเดินทาง

หลอนๆ

เรื่องเล่าของปู่เกี่ยวกับยายแก่ อยากโดยสารมาที่วัดป่าสาลวัน 

ปู่เขาเล่าเอาไว้ว่า ตอนช่วงประมาณ 30 ปีที่แล้วนั้น แถวนี้ยังเป็นบ้านพักข้าราชการและเป็นป่า มีเส้นทางเพียงทางเดียวในการขับรถสามล้อและเดินทางไปตลาด แน่นอนว่าอยู่ห่างจากวัดไปประมาณเกือบ 7 กิโลกรัม ปู่เขาปั่นรถสามล้อรับส่งคนแถวนั้นมาตลอด จนหลายคนแถวนั้นไว้ใจและให้ความนับถือ ทำให้ปู่สามารถขับรถในช่วงเวลากลางคืนโดยที่ไม่มีเสียงหมาเห่าหรือคนหวาดระแวงว่าแกเป็นคนร้ายหรือคิดที่จะทำร้ายกัน

เรื่องเล่า

ยาย

แต่มีอยู่วันหนึ่งในคืนเดือนดับ ปู่ก็ได้พบเจอกับยายแก่คนหนึ่งที่อยากที่จะเดินทางจากสถานีรถไฟโคราช เดินทางไปยังวัดป่าสาลวันที่อยู่ใกล้แถวนั้น แล้วสิ่งที่ปู่เจอ แกตอบเพียงแค่คำสนทนาสั้นๆ บรรยากาศตอนนั้นวังเวงมากๆ เลยทีเดียว เป็นลักษณะของยายแก่ที่ยืนหิ้วตะกร้า แต่งตัวสะพายหลังเป็นผ้าและมีเหมือนผ้าขาวม้ามัดครอบหัว ปู่เขาถามว่า “แม่ใหญ่ ดึกดื่นป่านนี้เห็นหุ่งไปวัดด้วยบ่” ยายแก่ไม่ตอบ แล้วก้าวขึ้นมาบนรถและไปด้วยกัน แล้วตาจึงถามว่า “จะไปวัดป่าใช่ไหม” แกก็ตอบว่า “อือ” เช่นเดียวกัน

วังเวง

หลอน

ในตอนนั้นก็ได้ถีบรถไปเรื่อยๆ ตามทางที่ปู่เขานั้นคุ้นเคย แต่สิ่งที่น่าประหลาด เมื่อเข้าไปในเขตหมู่บ้าน มีทั้งเสียงหมาเห่าหมาหอนเต็มไปหมด เป็นเรื่องที่แปลกมาก เพราะแกไม่เคยพบเจอกับบรรยากาศที่ประหลาดเหล่านี้ เมื่อปู่หันกลับไปถามยายด้านหลังรถถีบสามล้อ ก็ไม่มีใครอยู่บนรถ ปู่นั้นตกใจเป็นอย่างมากกระโดดลงจากรถในทันที แล้ววิ่งไปยังบ้านคนแถวนั้น เป็นร้านขายของ เคาะประตูอย่างเร่งด่วนว่าเจอผีหลอก ทุกคนได้มาดูในจุดนั้นในทันใด หลังจากนั้นก็ได้เป็นเสียงเล่าลือถึงยายแก่ที่ถือศีลที่ชอบมายืนอยู่ในคืนเดือนดับเพื่อรอรถไปวัดที่อยู่ห่างไกลในเส้นทางคดเคี้ยวและยังเป็นเรื่องราวที่ถูกเล่าขานจนถึงปัจจุบันเกี่ยวกับเรื่องเล่าผีที่โด่งดังและมีจริง ที่วัดป่าสาลวันอยู่ติดกับหนองไผ่ล้อม เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องจดจำประจำจังหวัดประจำวัดแห่งนี้ที่ถูกเล่าขานสืบต่อมา