“กระหัง” ชื่อ ๆ นี้ถือเป็นอีกชื่อหนึ่งที่คนทั่วไปรู้จักกันอย่างแพร่หลานในฐานะปีศาจในตำนานชนิดหนึ่งที่มีเรื่องเล่าเก่าแก่แต่โบราณในตำนานพื้นบ้านของประเทศไทยเราตีคู่มากับ “กระสือ” โดยกระหังจะเป็นปีศาจเพศชายใช้กระด้งมาทำเป็นปีกทั้งสองข้างไว้สำหรับบิน และใช้สากกะเบือเอามาผูกติดกับขาแทนหาง ซึ่งว่ากันว่าเกิดจากการที่ผู้ซึ่งฝึกวิชาอาคม หากแต่ไม่สามารถควบคุมอาคมตนเองได้จนเกิดอาการ“ของเข้าตัว” ทำให้ตนเองกลายเป็นภูตผีปีศาจแทนเสียเอง
สำหรับตำนานผีกระหังของเราในวันนี้จะขอกล่าวถึงตำนานที่อาจดูแปลกไปจากตำนานพื้นบ้านเดิมไปสักหน่อย โดยจะกล่าวถึงหมู่บ้านแห่งหนึ่งในภาคอีสานของไทยเรา ซึ่งในปัจจุบันมีชื่อเรียกกันว่า “โนนกระสัง” โดยตำนานเรื่องเล่าจะกล่าวถึงเมื่อครั้งในอดีตหลายสิบปีก่อน หมู่บ้านแห่งนี้ถือเป็นหมู่บ้านอันห่างไกลความเจริญ ผู้คนยากไร้และแรงแค้น เกิดความแห้งแล้งทุกหย่อมหญ้า พืชพรรณไม่เจริญเติบโต ชาวบ้านจึงตัดสินใจจะส่งชายหนุ่มวัยฉกรรจ์กลุ่มหนึ่งเข้าไปในป่าเพื่อล่าสัตว์ หาอาหารมาแบ่งปันให้กับคนในหมู่บ้าน ร้อนถึงพรานเฒ่าคนหนึ่งที่เคยวางมือจากการเข้าป่ามาแล้ว หากแต่จำเป็นต้องหยิบปืนนำทางพาพรานมือใหม่ที่เป็นคนหนุ่มอีก 4 คนเข้าไปในป่าเพื่อล่าสัตว์ หากแต่หนึ่งในพรานมือใหม่ที่เข้าไปด้วยกลับไม่เชื่อฟังคำสั่ง ไปยิงเอาลูกของสัตว์ชนิดหนึ่งมีลักษณะคล้ายลิงผสมกับค้างคาวมาเป็นอาหารกินด้วยความหิวโหย และในคืนนั้นเองก็มีเสียงหวีดร้องดังขึ้นขับกล่อมให้คนในกลุ่มล่าสัตว์หลับกันไปจนหมด เมื่อตื่นขึ้นมาอีกครั้งปรากฏว่าพรานมือใหม่คนหนึ่งได้ตายลงอย่างปริศนามีเพียงรอยเขี้ยวสัตว์ที่ดูดเอาเลือดของเขาออกไปหมดตัว ทำเอาพรานเฒ่าต้องรีบพากลุ่มล่าสัตว์ที่เหลือหนีออกมาจากป่ากลับมายังหมู่บ้าน แต่แล้วเหตุการณ์ก็ยังคงไม่สงบเพราะในคืนต่อมาก็มีเสียงหวีดร้องดังขึ้นอีกครั้งและแน่นอนว่าในเช้าของวันถัดมาพรานมือใหม่คนที่ 2 ก็ตายลง ซึ่งมันเป็นเช่นนี้ติดต่อกันไปอีก 2 คืน จนกระทั่งพรานหนุ่มที่เข้าไปล่าสัตว์ในคณะล้วนตายไปหมดแล้ว และเกิดตำนานถึงผี “พระยากระหัง” ตัวใหญ่ได้บินเข้ามาออกอาละวาดในหมู่บ้านนี้
ในที่สุดก็มาถึงคืนที่ 5 เสียงหวีดร้องแหลงดังขึ้นขับกล่อมให้คนทั้งหมู่บ้านหลับสนิทอีกคืน ร่างของสัตว์ประหลาดตัวหนึ่งที่มีรูปร่างคล้ายมนุษย์ผสมลิงและมีปีกเป็นพังผืดคล้ายกับค้างคาวค่อย ๆบินลงมาที่บ้านพรานเฒ่า มันค่อย ๆ ย่องเดินเข้ามาในบ้านอย่างหยามใจ หากแต่ “ปัง!” พรานเฒ่าที่ได้วางแผนหาเศษผ้ามาทำการอุดหูเอาไว้ ทำให้เขาไม่ได้ถูกเสียงหวีดร้องของเจ้าสัตว์ประหลาดสะกดให้หลับในคืนนี้ ได้เหนี่ยวไกยิงใส่เจ้าพระยากระหังเต็มๆ ทำเอาร่างประหลาดกระเด็นออกไปไกลก่อนบินขึ้นฟ้าหนีไปแบบโซซัดโซเซ และไม่กลับมาอีกเลย ทำให้ที่แห่งนี้ถูหเรียกว่า “โนนกระหัง” และเพี้ยมากลายเป็น “โนนกระสัง” ในที่สุดเหมือนทุกวันนี้