สำหรับผู้ที่นิยมชมชอบในเรื่องลึกลับก็คงได้ยินได้ฟังมาแล้วหลากหลายเรื่องราวเกี่ยวกับกรณีการที่มีใครสักคนหรือกลุ่มคนใดคนหนึ่งเข้าไปในสถานที่ที่ไม่สมควร
และหยิบเอาสิ่งของที่ไม่ใช่ของตนเองออกมา จุดจบของคนเหล่านี้ก็มักจะไม่รอดสักรายในตอนท้ายของเรื่อง แต่ในวันนี้เราจะขอนำเรื่องที่ค่อนข้างจะแปลกสักหน่อยมาเล่าให้ได้อ่านกัน
เรื่องเล่าเรื่องนี้เริ่มต้นที่ในชนบทแห่งหนึ่งใน ประเทศญี่ปุ่น ในยุคที่ย้อนไปสักประมาณ
30 ปี ซึ่งเป็นยุคที่ไม่มีกิจกรรมให้ทำมากนักในยามเย็น ทำให้เหล่ากลุ่มวัยรุ่นที่ร่วมตัวเป็นแก๊งกวนเมืองไม่มีอะไรทำ มีเพียงร้านสะดวกซื้อเพียงแห่งเดียวพึ่งมาเปิดในเมืองแห่งนี้ มันจึงทำให้กลุ่มวัยรุ่นกลุ่มนี้มักจะเข้ามารวมตัวที่หน้าร้านสะดวกซื้อดังกล่าว ทำเอารบกวนลูกค้าปกติรายอื่น ๆ ไม่กล้าเข้ามาใช้บริการ ทำให้เจ้าของร้านทำการแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาดูแลในช่วงเวลาที่แก๊งวัยรุ่นกลุ่มนี้มักเข้ามาก่อกวนในช่วงกลางคืน ด้วยเหตุนี้เอง จึงทำให้พอเวลาใกล้จะดึกก็จะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาดูและไล่ให้กลุ่มวัยรุ่นกลุ่มนี้กลับบ้านเสมอ โดยวันที่เกิดเหตุก็เป็นอีกวันหนึ่งที่กลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาขับไล่ให้กลับบ้าน เพราะเวลาดึกมากแล้ว แต่ด้วยความที่วันนี้กลุ่มวัยรุ่นกลุ่มนี้ยังไม่อยากกลับบ้าน จึงออกไปจับกลุ่มเล่นกันที่ลานกว้างแห่งหนึ่งของเมือง และในที่สุดในระหว่างที่เล่นกันอยู่ก็ไปเจอบ้านร้านที่ไม่มีเจ้าของ ด้วยความห่ามของกลุ่มวัยรุ่นจึงได้ชักชวนกันแอบเข้าไปสำรวจในบ้านร้างหลังดังกล่าว ซึ่งพวกเขาพบว่ามันมีสิ่งของ และเครื่องใช้ประจำบ้านถูกทิ้งอยู่มากมาย ซึ่งหนึ่งในกลุ่มวัยรุ่นซึ่งเป็นหัวหน้ากลุ่มได้ไปเปิดเจอห้องหนึ่งที่คล้ายอดีตห้องของวัยรุ่นที่มีรูปภาพและสิ่งของที่เป็นของที่ระลึกทีมเบสบอลทีมดังทีมหนึ่งที่หัวหน้ากลุ่มวัยรุ่นก็ชอบทีมนี้เช่นกัน จึงได้ถือวิสาสะหยิบหมวกประจำทีมฟุตบอลทีมนี้ที่ถูกทิ้งในตู้โชว์มาด้วย ซึ่งนับแต่นั้นมาหัวโจกกลุ่มวัยรุ่นก็มีกจะเจอเรื่องแปลก ๆ อย่างมีคนทักว่ามีเด็กชายคนหนึ่งคอยตามเข้าอยู่เสมอ และที่น่ากลัวที่สุดก็คือบ่อยครั้งที่เขาเกือบจะได้รับอุบัติเหตุทางรถยนต์ร้ายแรงจนถึงชีวิตแต่ก็รอดได้อย่าง ปาฏิหาริย์มาตลอด จนกระทั่งในคืนหนึ่งเขาก็ฝันว่ามีเด็กคนหนี่งมายืนอยู่ที่ปลายเตียงนอนแล้วพูดกับเขาว่า “พี่ผมขอหมวกผมคืนนะ ถ้าไม่ใช่เพราะพี่เชียร์ทีมเดียวกัน ผมเอาพี่ ตายไปนานแล้ว”
ภายหลังจากที่ฝันเห็นเด็กคนนั้น ในวันต่อมาเขาจึงรีบชักชวนเพื่อน ๆ เอาหมวกไปนั้นไปคืนที่บ้านหลังดังกล่าว นอกจากนี้ยังเอาเสื้อประจำทีมดังกล่าวมาวางเพิ่มให้กับเด็กคนนั้นด้วย พร้อมกับกล่าวขอโทษผีเด็กตนดังกล่าว เรื่องนี้สอนให้รู้ว่าห้ามไป หยิบจับเอาสิ่งของ ใดที่ไม่ใช่ของตนเองเพราะคุณอาจไม่โชคดีแบบนี้ก็เป็นได้