เรื่องสุดร้อนเกี่ยวกับสตูดิโอผีสิงนั้นมีอยู่จริง ผมคือหนึ่งในเจ้าหน้าที่คุมกล้องคุมฉากของสถานที่ถ่ายทำละครบ้านโชคดี ตอนนั้นสิ่งที่พวกเราได้เจอะเจอคือดวงวิญญาณหลอนที่เข้ามาร่วมฉากและก็ต้องขอเชิญดวงวิญญาณของเพื่อนในกลุ่มและผู้กำกับเข้าไปในเฟรม
ผมชื่อ ก้องเกียรติ เป็นหนึ่งในทีมงานตัดต่อ สิ่งที่ผมได้เจอะเจอนั่นก็คือ พี่ไม้ ที่เป็นหนึ่งในทีมงานผู้กำกับนั้นได้ใช้การบวงสรวงเซ่นไหว้และได้ถามการทำงานด้วยการใช้ผีถ้วยแก้วถามความสมัครใจและขออนุญาตในการถ่ายทำ ผู้กำกับนั้นได้พูดเรื่องที่ทำให้ผมขนหัวลุก เขาเคยสัญญากับเพื่อนรักเอาไว้ว่าจะให้แสดงหนังด้วย
แต่เพื่อนของเขาได้ตายไปเมื่อ 7 ปีที่แล้ว ในตอนนี้เขาก็อยากจะให้เพื่อนของเขาเข้าร่วมฉาก ที่เคยพบเจอมาโดยเฉพาะตอนนั้นคุณแพรว ที่เป็นนักแสดงได้รู้สึกถึงบรรยากาศจากด้านหลังและเห็นหน้าของคนที่อยู่มุมบนขอบผ้าม่านหน้าตาซีดเผือดมาก เธอกรี๊ดร้องเสียงหลง ตอนนั้นก็ยังได้ถ่ายติดภาพนั้นอยู่ข้างมุมประกอบฉาก ทุกคนเห็นถึงขั้นขนหัวลุก เพราะสิ่งนั้นเธอไม่ได้คิดไปเอง
และเรื่องราวสุดหลอนนั้นก็ดำเนินต่อไปจนการถ่ายทำละครเรื่องนี้จบ นักแสดงหลายๆ คนรวมไปถึงผู้กำกับต่างขนหัวลุกกับละครเรื่องนี้ ที่ทำเอาความสนุกสนาน กลายเป็นเรื่องสยองหน้าหวาดกลัวสุดๆ เลย สิ่งเหล่านั้นไม่มีใครที่ได้เห็นความผิดปกติมากนัก
แต่สิ่งที่ผมได้เจอะเจอมันหนักหนากว่านั้น เพราะในช่วงที่ตัดต่ออยู่เหมือนมีเงารางๆ อยู่ในสตูดิโอแห่งนั้นและมีเสียงข้าวของตก ทำให้หลายครั้งผมต้องวิ่งออกไปข้างนอก เพื่อที่จะไปตามเด็กฝึกงานให้เข้ามาอยู่ด้วยกัน นั่นกลายเป็นเรื่องสยองประจำสตูดิโอของทางบริษัท
หลังจากนั้นก็ได้นำเรื่องราวไปพูดคุยกันภายในองค์กรอย่างต่อเนื่อง จนไม่มีใครกล้าเข้ามาทำงานตัดต่อในห้องสตูดิโอและการอัดเสียงภายใน จนต้องนิมนต์พระเพื่อที่จะมาปัดเป่าเรื่องราวต่างๆเหล่านั้นนั่นเป็นสิ่งที่ทำเอาหลายๆ คนที่เคยหวาดกลัว ต่างก็เริ่มที่จะเบาใจลงไปในระดับหนึ่งแต่อย่างไรก็ตาม
เรื่องราวความหลอนและสถานที่สุดเฮี้ยน ก็ยังเป็นสิ่งที่ทำเอาหลายๆ คนต่างหวาดกลัวและยำเกรงจนได้มีหิ้งพระติดอยู่บนกำแพงของสตูดิโอแห่งนั้นและมีกฎบังคับนั่นก็คือ ต้องเข้าไป 3 คนและต้องอยู่ในนั้น 2 คนและไม่ควรที่จะอยู่ตามลำพัง อาจจะพบเจอสิ่งที่ลี้ลับก็เป็นไปได้ นั่นจึงกลายเป็นเรื่องสุดหลอนประจำสตูดิโอแห่งนี้ไปในทันที