เด็กเขาไม่รู้

You are currently viewing เด็กเขาไม่รู้

เรื่องราวของเรื่องลึกลับและสยองขวัญ มักจะมีเรื่องเล่าให้เราฟังกันทุกยุคสมัย และหลาย ๆ ครั้งก็มักจะมีเรื่องเล่าถึงดวงวิญญาณหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ลึกลับที่หากเผลอไปล่วงเกินแล้ว หลายครั้งสิ่งที่คุณต้องชดเชยก็จะมีเพียงชีวิตของคุณเท่านั้น เช่นเดียวกันกับเรื่องราวที่เราจะนำมาถ่ายทอดให้ท่านผู้อ่านในตอนนี้

โดยเรื่องราวเกิดขึ้นจากคุณเอหญิงไทยที่ไปทำงานอยู่ในต่างประเทศรวมทั้งได้แต่งงานกับชาวต่างชาติคือคุณเดวิด มีพยานรักเป็นเด็กหญิงน้อย 1 คน นามว่าเคท (นามสมมุติทั้งหมด) ซึ่งปกติพวกเขาจะอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาเสียเป็นส่วนใหญ่

สร้างภาพ

จนกระทั่งครอบครัวของคุณเอได้มีโอกาสกลับมาเยี่ยมญาติในประเทศไทย คุณเอจึงได้พาหลานสาวและสามีมาพักที่บ้านเกิดในแถบชนบทแห่งหนึ่งของประเทศไทย น้องเคทเด็กหญิงอายุประมาณไม่เกิน 10 ขวบ ก็ได้ออกไปวิ่งเล่นกับเด็ก ๆ ลูกหลานของคนที่เป็นลูกของญาติพี่น้องของคุณเอ วันที่ 3 ของการกลับมายังประเทศไทยคุณเอก็รู้สึกว่าหนูเคทมีบางอย่างที่เปลี่ยนไปอยู่ ๆ ก็เหม่อลอยและในหลายครั้งก็เห็นเธอแอบลุกขึ้นมาทำท่ารำในยามค่ำคืน

เด็กเขาไม่รู้

ซึ่งคุณแม่ก็คิดว่าเด็กหญิงอาจจะเห็นจากในทีวีของประเทศไทยเลยคิดอยากลองรำบ้างก็เป็นได้ แต่แล้วอยู่ดี ๆเด็กหญิงก็อาการทรุดหนักลง ไม่กินข้าวกินปลาเหม่อลอยและทำท่าอยากจะดัดมือดัดเท้าหักข้อไม้ข้อมือตนเองอยู่ตลอดเวลา จนคุณแม่และญาติ ๆ ต้องเอาเชือกมัดเอาไว้และนำส่งโรงพยาบาล เหตุผลก็เพราะคุณพ่อนั้นเป็นชาวต่างชาติซึ่งไม่เชื่อในเรื่องภูตผีและวิญญาณหรือสิ่งเหนือธรรมชาติ พอเห็นเป็นแบบนั้นก็คิดว่าอาจจะเป็นอาการป่วยอะไรสักอย่างที่สามารถรักษาได้ทางวิทยาศาสตร์ อย่างไรก็ตาม เหล่าแพทย์ไม่สามารถหาอาการป่วยของน้องได้

เด็กเขาไม่รู้

 

พออาการน้องเริ่มคงที่ไม่อาละวาดแล้วจึงได้แจ้งให้นำผู้ป่วยกลับไปรักษาต่อที่บ้านได้ แต่คนเป็นแม่ก็ไม่ไว้วางใจจึงได้ทำการกลับไปค้นกระเป๋าและข้าวของของลูกสาวในที่สุดก็พบตุ๊กตานางรำตัวหนึ่ง ที่แขนหักบิดเบี้ยวเหมือนว่าเด็กหญิงเอามาเล่นเป็นตุ๊กตาเหมือนที่เด็ก ๆ เล่นกัน พอเห็นแบบนั้นคุณเอก็รีบไปซักถามกับเราลูกหลานในบ้านจนได้ความว่าเด็กหญิงอาจจะไปเหยียบเอาตุ๊กตานางรำมาจากศาลเจ้าแห่งหนึ่งภายในวัดประจำหมู่บ้านที่พวกเขาเคยพาเด็กหญิงไปทำบุญนั่นเอง

รู้แบบนั้นจากการรักษาทางการแพทย์วิทยาศาสตร์ก็เปลี่ยนไปเป็นการหาพ่อหมอทำประจำหมู่บ้านมาช่วยรักษาในทันที ซึ่งพ่อหมอก็ส่ายหน้าพร้อมกับบอกมาว่ามันเป็นกรรมของเด็กหญิงเองไม่สามารถช่วยได้ จากนั้นในเวลาไม่นานครอบครัวก็พบว่าเด็กหญิงสามารถหลุดจากเชือกที่ผูกไว้บนเตียงได้ พร้อมกับกระโดดลงจากชานบ้านเรือนไทยตกลงมาเสียชีวิตที่ใต้ถุนบ้านในเวลาไม่นานนั่นเอง