ลัทธิกับปะ

You are currently viewing ลัทธิกับปะ

สำหรับคนที่ชื่นชอบเรื่องราวของประเทศญี่ปุ่นก็คงจะรู้จักตำนานของ “กัปปะ” เป็นอย่างดี โดยมันเป็นตำนานของปีศาจหรือสัตว์ประหลาดชนิดหนึ่งมีโครงสร้างภายนอกคล้ายมนุษย์ หากแต่มือและขาจะมีพังผืดแบบกบ ตัวเป็นสีเขียวหรือสีต่าง ๆ มีหัวเป็นจานซึ่งมีน้ำอยู่ในจาน โดยตำนานของกัปปะในประเทศญี่ปุ่นนั้น

จะแบ่งเป็นชั้นแบบดีและไม่ดี ซึ่งแบบดีจะกล่าวถึงกับปะที่จะคอยพิทักษ์ปกปักรักษาดินแดนหรือบริเวณหนองน้ำแห่งใดแห่งหนึ่ง เป็นที่เคารพบูชาของคนที่พักอาศัยในบริเวณนั้น ในขณะที่ในแบบที่ไม่ดีจะเป็นเรื่องราวของกัปปะในฐานะปีศาจที่มักจะกินสัตว์ต่าง ๆ

กัปปะ

หรือแม้แต่มนุษย์ โดยหากเจอกัปปะออกมาจะทำร้ายให้เราทำการโค้งคำนับ ซึ่งกัปปะจะโค้งคำนับตามด้วยสัญชาตญาณและทำให้น้ำบนจานที่หัวของมันก็จะหล่นออก ทำให้มันไม่มีน้ำไว้หล่อเลี้ยงตนเอง

โดยหนึ่งในความเชื่อเรื่องกัปปะเกิดขึ้นในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง แถบชนบทของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งพวกเราเป็นชายสูงอายุคนหนึ่ง ซึ่งเล่าเรื่องราวย้อนไปในสมัยวัยเด็กของเขาที่ยังพักอาศัยกับครอบครัวในหมู่บ้านแห่งนี้ ซึ่งว่ากันว่าที่แม่น้ำอยู่ใกล้บริเวณหมู่บ้านจะมีกัปปะคอยพิทักษ์รักษาอยู่ ซึ่งคนในหมู่บ้านจะคอยทำพิธีบูชาเทพเจ้ากัปปะตนนี้ให้ช่วยดูแลหมู่บ้านให้เกิดความสงบสุขและมีความอุดมสมบูรณ์อยู่เสมอ แต่ในขณะเดียวกันก็มักมีข่าวว่ากับปะจะสุ่มจับเด็กในหมู่บ้านเอาเป็นเครื่องสังเวยบ่อย ๆ

ผีกับปะ

ทำให้พ่อแม่และผู้ปกครองในหมู่บ้านมักจะสั่งลูกตนเองห้ามไปวิ่งเล่นนอกหมู่บ้านโดยเฉพาะบริเวณแม่น้ำ ซึ่งในวันหนึ่งผู้เล่าที่เป็นเด็กชายตัวเล็ก ๆ ได้เผลอวิ่งเล่นกับเพื่อนออกไปนอกเขตบริเวณหมู่บ้านเข้าใกล้บริเวณริมแม่น้ำ อยู่ดี ๆ ก็มีบางสิ่งมีชุดคลุมดำปรากฏตัวออกมาพยายามวิ่งไล่จับเขาและเพื่อน พวกเราจึงตัดสินใจวิ่งหนีไปแอบซ่อนในโพรงต้นไม้ทำให้รอดชีวิตมาได้ หากแต่เพื่อนของเขากลับหายตัวไป ด้วยความเป็นห่วงเพื่อนแม้จะหวาดกลัวพวกเราจึงตัดสินใจเดินย้อนกลับเข้าไปบริเวณริมแม่น้ำเพื่อตามหาเพื่อนของตนเอง

ผีกับปะ

หากแต่ภาพที่เห็นก็คือร่างของเพื่อนเขาที่ถูกหั่นเป็นชิ้น ๆ และมีคนกำลังทานเนื้ออยู่ ปัญหาก็คือผู้ที่กำลังกินเนื้ออยู่คือคนเป็นพ่อของผู้เล่า รวมทั้งกลุ่มผู้ใหญ่ในหมู่บ้านหลายคนที่พวกเรารู้จัก กำลังย่างและกัดกินเนื้อของเด็กคนนั้นที่เป็นเพื่อนของผู้เล่ากันอย่างเอร็ดอร่อย

สิ่งที่เห็นทำให้จิตใจพวกเรากระเจิดกระเจิงหนีกลับมาในบ้าน โดยไม่ยอมบอกสิ่งที่เห็นให้ใครได้รู้ เวลาผ่านไปก็รับทราบว่ามันเป็นความเชื่อของลัทธิหนึ่งที่ว่ากันว่าการได้รับประทานเนื้อเด็กเล็กจะช่วยให้อายุยืนยาวโดยมีการนำเรื่องตำนานของกัปปะมาเป็นการบังหน้า พอเริ่มโตและสามารถอยู่ด้วยตัวเองได้ก็ได้ออกมาจากหมู่บ้านนั้นเพื่อมาใช้ชีวิตในเมืองและไม่กลับไปหมู่บ้านนั้นอีกเลย