หลายๆคนคงต้องเคยมีบ้างกับความคิดที่ว่า ตายแล้วไปไหน บรรพบุรุษของเราที่ล่วงลับไปแล้วนั้น ก็ไม่เคยมาบอกซะด้วยสิว่ามีมิติวิญญาณหรือไม่ ทุกวันนี้มีหลายรายการสนุก เกี่ยวกับ การล่าท้าผีเพื่อพิสูจน์ซึ่งก็ต้องใช้วิจารณญาณของตัวเองในการตัดสินใจว่าเรื่องไหนจริงเท็จด้วยตัวเอง คนไทยเชื่อว่าบรรพบุรุษยังคงมีอิทธิพลต่อชีวิตของลูกหลาน วิญญาณเหล่านี้มักได้รับการเคารพและทำบุญให้ เพื่อให้เกิดความสงบสุขในโลกหน้า
ตามความเชื่อทางพุทธศาสนา วิญญาณของมนุษย์จะเวียนว่ายตายเกิดตามกรรมที่กระทำในชาติก่อน การทำดีจะนำไปสู่การเกิดในภพภูมิที่ดี ส่วนการทำชั่วอาจทำให้ต้องประสบกับความทุกข์ในชีวิตถัดไป วิญญาณสามารถแบ่งออกเป็นผีดีและผีร้าย ผีดีมักจะเป็นผู้ที่คอยช่วยเหลือหรือให้ความคุ้มครอง ส่วนผีร้ายอาจเกิดจากความไม่สงบหรือกรรมชั่วที่ยังค้างคา มีความเชื่อในเรื่องการสื่อสารกับวิญญาณผ่านพิธีกรรมหรือการทำบุญ เพื่อขอพรหรือขอโทษจากวิญญาณที่เราทำให้ไม่พอใจ ในบางประเพณี เช่น วันสงกรานต์หรือวันเข้าพรรษา มีการทำบุญเพื่อปล่อยวิญญาณให้ไปเกิดใหม่หรือให้ได้รับการปลดปล่อยจากความทุกข์
มิติวิญญาณนี้สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมโยงระหว่างชีวิตและความตาย ความสัมพันธ์ระหว่างคนกับวิญญาณยังคงมีความสำคัญในวัฒนธรรมไทยจนถึงปัจจุบันสวรรค์ นรกมีจริงไหม ขึ้นอยู่กับความเชื่อของแต่ละบุคคลบางคนก็เชื่อบางคนก็ไม่เชื่อว่ามีจริงเป็นเพียงคำสอนซึ่งนั่นก็ไม่ผิด สวรรค์และนรกเป็นแนวคิดที่ปรากฏอยู่ในศาสนาหลายศาสนา รวมถึงพุทธศาสนาและศาสนาอื่น ๆ โดยมักถูกมองว่าเป็นสถานที่ที่วิญญาณจะไปหลังจากสิ้นชีวิต ขึ้นอยู่กับกรรมที่ทำในชีวิตนั้น ๆ แนวคิดนี้มีอิทธิพลต่อวิถีชีวิตและการตัดสินใจของผู้คนในสังคมต่าง ๆ
สวรรค์ มักถูกมองว่าเป็นสถานที่แห่งความสุข ความสงบ และความบริสุทธิ์ ที่ซึ่งวิญญาณจะได้พักผ่อนจากความทุกข์ในโลกมนุษย์ และได้รับการตอบแทนจากการทำดี
นรกเป็นสถานที่ที่เชื่อว่ามีความทุกข์ทรมาน ที่วิญญาณต้องเผชิญหากทำชั่วในชีวิต หากละเมิดกฎเกณฑ์หรือประพฤติไม่ดี ไม่รู้ว่ามีจริงหรือไม่แต่ก็เป็นคำสอนของชาวพุทธที่อย่างน้อยให้เรานั้นทำตัวให้ดีก่อนตายหรือ ในช่วงอายุที่เรานั้นได้เกิดมาเป็นมนุษย์บนโลกใบนี้แล้วก็ให้ ทำความดีทำสิ่งดีๆเอาไว้บ้าง ถึงแม้นรกสวรรค์ไม่รู้มีจริงไม่มีจริงแต่คุรงามความดีของเราจะยังเป้นที่จดจำให้กับคนรุ่นหลังหรือ ในครอบครัวของเราลูกหลานต่อไป